‘เราเที่ยวด้วยกัน’ เฟส 3 เช็คคืบหน้า ปรับรายละเอียดใหม่ป้องกันทุจริต

‘เราเที่ยวด้วยกัน’ เฟส 3 เช็คคืบหน้า ปรับรายละเอียดใหม่ป้องกันทุจริต

เช็คความคืบหน้า "เราเที่ยวด้วยกัน" เฟส 3 ที่จะมีการปรับปรุงรายละเอียดใหม่ เพื่อป้องกันการ "ทุจริต" โดยหนึ่งในวิธีที่ ผู้ว่าการฯ ททท. เสนอก็คือจะให้ผู้ใช้สิทธิจองที่พักล่วงหน้าก่อน 2 สัปดาห์ จากเดิม 3 วัน

หลังจากที่ ครม. ยังไม่อนุมัติการขยายโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3 (9 มี.ค.ที่ผ่านมา) และตีกลับให้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ ธนาคารกรุงไทย ไปหารือถึงวิธีการใช้สิทธิใหม่ เพื่อป้องกันการทุจริตให้รัดกุมมากขึ้น 

โดยเฉพาะประเด็นการยืนยันตัวตนผ่านแอพพลิเคชั่นว่าเป็นเจ้าของสิทธิจริงๆ รวมถึงต้องปรับเงื่อนไขใหม่สำหรับผู้ประกอบการโรงแรมด้วย เรื่องนี้มีความคืบหน้าจากทาง ททท. เพิ่มเติมคือ มีการเสนอแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตภายใต้โครงการ ได้แก่ 

1. "เราเที่ยวด้วยกัน" ปรับปรุงรายละเอียด ให้จองที่พักล่วงหน้า 2 สัปดาห์

มีการกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมให้ประชาชนผู้ใช้สิทธิ จะต้องจองที่พักล่วงหน้าก่อนเข้าพักไม่น้อยกว่า 2 สัปดาห์ จากเดิมที่กำหนดไว้ 3 วัน เพื่อให้มีระยะเวลาเพียงพอในการตรวจสอบข้อมูลที่มีความผิดปกติหรือไม่? และหากพบว่ามีความผิดปกติก็จะสามารถระงับการจ่ายเงินให้กับธุรกรรมที่เป็นการทุจริตได้ทันท่วงที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

2. ป้องกันการสวมสิทธิด้วยระบบ "สแกนใบหน้า"

จะดำเนินการตามแนวทางการป้องกันการทุจริตในส่วนอื่นๆ เช่น การป้องกันการสวมสิทธิด้วยระบบสแกนใบหน้า และการยืนยันตัวตนของผู้ใช้สิทธิที่สาขาธนาคารกรุงไทย โดยเรื่องนี้ ททท. จำเป็นต้องหารือกับธนาคารกรุงไทยก่อน และคาดว่าต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการระยะหนึ่ง

3. แสดงราคาห้องพักเปรียบเทียบ ปี62 vs ปี64

มีการกำหนดให้โรงแรมจัดส่งข้อมูลราคาห้องพัก (Rate Plan) มาเปรียบเทียบกับราคาห้องพัก ณ ปี 2562 ที่ได้จาก OTA เพื่อตรวจสอบความเหมาะสมของจำนวนห้อง และราคาห้องพักที่เกิดขึ้นภายใต้โครงการ

4. "เราเที่ยวด้วยกัน" เฟส 3 ขยายเพิ่ม 2 ล้านสิทธิ

ทั้งนี้โครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" เฟส 3 รายละเอียดสำคัญคือ จะมีการเพิ่มสิทธิห้องพักอีก 2 ล้านห้องใหม่ จากเดิมที่เคยให้สิทธิไปแล้วรวม 6 ล้านห้องในช่วงเฟส1 และ เฟส2 รวมถึงจะขยายเวลาดำเนินโครงการไปจนถึงวันที่ 31 ก.ค. 2564

นอกจากนี้ ทางสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ยังได้ร่วมเสนอแนวทางเรื่องอื่นๆ ที่ต้องหารืออีก ก็คือ หากมีการขยายระยะเวลาเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 ออกไป อาจปรับลดเพดานราคาห้องพักแบบใหม่

กล่าวคือ จากเดิมให้สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท และภาครัฐอุดหนุนเงินให้ไม่เกิน 40% หรือ 3,000 บาท ในครั้งนี้อาจปรับลดเพดานลงเหลือไม่เกินห้องละ 2,700 บาท ซึ่งเป็นสถิติที่ ททท. รายงานว่าเป็นราคาห้องเฉลี่ยที่คนไทยเข้าพักในโครงการระยะที่ 1 และ 2

โดยหากลดเพดานค่าที่พักลงดังกล่าว ก็จะทำให้จำนวนเงินที่ภาครัฐจะอุดหนุนลดลงเหลือ 1,000-2,000 บาทต่อสิทธิเท่านั้น ซึ่งจำนวนเงินที่ลดน้อยลงอาจทำให้ขยายจำนวนสิทธิที่จะให้ประชาชนได้มากขึ้น 

ส่วน E-voucher ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันที่จ่ายสนับสนุนการท่องเที่ยวอยู่วันละ 900 บาท ส่วนนี้อาจพิจารณา "ยกเลิก" เพราะปัจจุบันมีส่วนโครงการที่สนับสนุนการใช้จ่าย และเพิ่มกำลังซื้อของประชาชนที่ร้านค้าต่างๆ เข้าร่วมอยู่แล้ว ได้แก่ โครงการ "เราชนะ" "คนละครึ่ง" และกำลังจะมีโครงการ "ม.33เรารักกัน" ที่ประชาชนก็จะใช้การใช้จ่ายผ่านช่องทางเหล่านี้อยู่แล้ว