ไฮด์เฮอริเทจตรึงราคาขาย ชูออนดีมานด์ดึงลูกค้าไทย

ไฮด์เฮอริเทจตรึงราคาขาย  ชูออนดีมานด์ดึงลูกค้าไทย

แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ฯ พลิกเกมรับพิษโควิด ซื้ออีลิทการ์ดแจกลูกต่างชาติ พร้อมตรึงราคาขาย “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” งัดออนดีมานด์เซอร์วิสระดับโรงแรมสร้างมูลค่าเพิ่มดึงลูกค้าคนไทย

นางสาวอัญชลี เลิศสุวรรณรัชต์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 กระทบต่อการเดินทางของกลุ่มลูกค้าต่างชาติทำให้บริษัทต้องปรับแผนการทำตลาดโครงการ ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ คอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักชัวรี เน้นใช้ช่องทางออนไลน์ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น ผ่านความได้เปรียบของพาร์ทเนอร์ “ซูมิโตโม ฟอเรสทรี” ประเทศญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าไต้หวัน ฮ่องกง ญี่ปุ่น โดยเฉพาะชาวฮ่องกงต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยมากเป็นอันดับ3 รองจากสิงคโปร์ และ อังกฤษ โดยโครงการได้ซื้อบัตรอีลิทการ์ด มูลค่า 1 ล้านบาทให้ลูกค้าต่างชาติที่ซื้อคอนโด กระตุ้นยอดขายปีที่ผ่านมาทำได้ 45% จาก 6,000 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน มุ่งขยายฐานลูกค้าชาวไทยด้วยการเพิ่มบริการออนดีมานด์ (On-Demand Services) บนพื้นที่ส่วนกลางรวม 28 ฟังก์ชั่น จากโรงแรมในเครือ คือ ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท เช่นบริการจัดปาร์ตี้เอ็กซ์คลูซีฟ เชฟ เซอร์วิส บัตเลอร์ ทำหน้าที่ดูแลการใช้ชีวิตในด้านต่างๆ เสมือนเลขาส่วนตัว พร้อมทั้งทำโปรโมชั่นกับบัตรกรุงไทย ต่อแรก จองและทำสัญญา ผ่อนชำระ 0% นาน 10 เดือน ทำให้ลูกค้าไม่ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ ต่อที่ 2 “จองเท่าไหร่ ได้เท่านั้น” จองห้องชุดด้วยบัตรเคทีซี รับบัตรกำนัลเงินสดสูงสุด 1 แสนบาท สำหรับใช้บริการที่โรงแรม 5 แห่งในเครือ บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และ โรงแรมพันธมิตร

ทั้งนี้ ลูกค้าที่เข้ามาซื้อคอนโด ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ 60% เช่น ไต้หวัน ฮ่องกง ญี่ปุ่น อีก 40% เป็นชาวไทย คาดหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายยอดขายน่าจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายปีนี้ จากแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัว และเริ่มเปิดประเทศทำให้ความมั่นใจของลูกค้าดีขึ้น ส่งผลบวกต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของลูกค้า

ปัจจุบันราคาขายของโครงการเฉลี่ย 2.7 แสนบาทต่อตร.ม. ถือว่าต่ำกว่าคอนโด Branded Residence อื่น ซึ่งมีราคาเริ่มต้น 3.5 แสนบาทต่อตร.ม. หากไม่มีปัจจัยลบโควิดคาดว่าราคาขายจะอยู่ที่ 3.5 แสนบาทต่อ อย่างไรก็ดี ปีนี้คาดปิดการขายไม่ต่ำกว่า 10 ยูนิตต่อเดือน ทำให้ยอดขายสิ้นปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 60-70% จาก 45% ส่วน คอนโด ไฮด์ สุขุมวิท 11 มูลค่า 4,000 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือขาย 10%