เชียงใหม่ สั่งงดบริหารจัดการเชื้อเพลิงทุกพื้นที่ 7 วัน

เชียงใหม่ สั่งงดบริหารจัดการเชื้อเพลิงทุกพื้นที่ 7 วัน

เชียงใหม่ เดินหน้าแก้ไขปัญหาไฟป่า-หมอกควัน พบ 3 อำเภอมีจุดความร้อนมากที่สุด สั่งทุกพื้นที่งดบริหารจัดการเชื้อเพลิงทุกพื้นที่ 7 วัน หวังลดปัญหาไฟป่าและหมอกควันสะสม

เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 64 กรมควบคุมมลพิษ รายงานสรุปสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทั้ง 4 สถานีลดลงอยู่ในระดับเกณฑ์สีส้ม โดยจุดที่ค่าฝุ่นสูงสุดในวันนี้ อยู่ที่สถานีตำบลศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วัดได้ที่ 74 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่คุณภาพอากาศโดยภาพรวมของจังหวัดเชียงใหม่ยังมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และทัศนวิสัยในการมองเห็นยังอยู่ในระดับต่ำ โดยยังคงมีหมอกควันปกคลุมสีขาวขุ่น ขณะที่จุดความร้อนจังหวัดเชียงใหม่ จากดาวเทียม Suomi NPP ระบบ VIRS ณ เวลา 01.53น. พบความร้อน 57 จุด

นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนจากทั้ง 25 อำเภอ ร่วมประชุมรายงานผลการปฏิบัติงาน และการการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน โดยที่ประชุมได้รายงานผลการป้องกัน แก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่ามีจุดความร้อนเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ทั้งสิ้น 3,041 จุด เมื่อเทียบกับสถิติปีที่ผ่านมาพบว่าลดลงไปร้อยละ 39.08 โดยพื้นที่ที่พบมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อ.แม่แจ่ม อ.ฮอด และ อ.ดอยเต่า ตามลำดับ

ทั้งนี้ ทางจังหวัดเชียงใหม่ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือน และดูแลสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงที่มีปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน และจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งทุกพื้นที่งดการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในห้วงเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 15-21 มี.ค. 64 เพื่อลดปริมาณฝุ่นควันในอากาศ ขณะที่การบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ สามารถเก็บใบไม้แห้งจากพื้นที่ป่า นำมาแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่ง และจัดเก็บเพื่อทำปุ๋ยแล้วกว่า 5,000 ตัน โดยในเขตพื้นที่อำเภอโซนใต้ได้มีการบริหารจัดการเชื้อเพลิงไปเรียบร้อยแล้ว และในช่วงเดือน มี.ค. และ เม.ย. จะเป็นการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในเขตอำเภอโซนเหนือของจังหวัดเชียงใหม่

ส่วนค่าเฉลี่ยของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. พบว่าอยู่ระหว่าง 17-98 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศโดยรวมต่ออยู่ในระดับดีถึงเริ่มมีผลต่อสุขภาพ ส่วนเดือน มี.ค. มีฝุ่นสะสมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นจำนวนมากจนอยู่ในระดับที่มีผลต่อสุขภาพของประชาชน สาเหตุจากทิศทางลมที่พัดจากทางทิศตะวันตก พัดพาเอาหมอกควันข้ามแดนจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน และประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา อีกทั้งภูมิประเทศของจังหวัดเชียงใหม่ที่เป็นแอ่งกระทะ และสภาพอากาศยกตัวได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้ไม่สามารถระบายฝุ่นละอองขนาดเล็กออกไปนอกพื้นที่ได้ แต่พยากรณ์อากาศคาดการณ์ว่าในระยะต่อไปจะมีแนวโน้มการระบายอากาศที่ดีขึ้น