รู้ไหม!! 10 อันดับ บจ.‘กำไร’ สูงสุดในตลาดหุ้นไทยปี63

ตั้งแต่จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และราคาน้ำมันที่ลดลงแรง ส่งให้บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีกำไรลดลง 53% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ทางด้านความสามารถการทำกำไร บจ. มีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 20.56% เป็น 21.10% แต่มีอัตรากำไรจากการดำเนินงานหลักลดลงจาก 7.31% เป็น 6.90% และมีอัตรากำไรสุทธิลดลงจาก 7.17% เป็น 3.94%

ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลในเว็บไซด์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)พบว่า มี บจ.ที่มีกำไรสุทธิสูงสุดในSET50 จำนวน10บริษัท ณ 13 มี.ค.2564 ดังนี้

1. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กำไรสุทธิ 37,765.81 ล้านบาท

2. บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC กำไรสุทธิ 34,143.87 ล้านบาท

3. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)หรือ KBANK กำไรสุทธิ 29,487.12 ล้านบาท

4. บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC กำไรสุทธิ 27,434.36 ล้านบาท

5. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กำไรสุทธิ 27,217.60 ล้านบาท

6. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF กำไรสุทธิ 26,022.39 ล้านบาท

7. บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด    (มหาชน) หรือ PTTEP กำไรสุทธิ 22,664.01 ล้านบาท

8. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL   กำไรสุทธิ 17,180.58  ล้านบาท

9.ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB    กำไรสุทธิ 16,731.58 ล้านบาท

10. บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL กำไรสุทธิ 16,102.42 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี หลังจากการผ่อนคลายการควบคุมโรคระบาดลงในครึ่งหลังของปี 2563 ทำให้ผลการดำเนินงานของ บจ. ดีขึ้นต่อเนื่องจากจุดต่ำสุดในไตรมาส  2 ปี2563

ดังนั้น หุ้นที่มีผลประกอบการดี เติบโตอย่างสม่ำเสมอ มีกำไรอย่างต่อเนื่อง สะท้อนการเป็น "บริษัทที่ดี" หรือ "หุ้นที่ดี"ในอนาคตที่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ