Media sector (12 มี.ค.64)

Media sector (12 มี.ค.64)

คาดหวังการฟืันตัว

Event

ประมวลภาพปี 2563 และแนวโน้มปี 2564-65

Impact

ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 2563

กำไรสุทธิโดยรวมในปี 2563 ของหุ้นกลุ่มสื่อที่เราศึกษา คือ บมจ. บีอีซี เวิลด์ (BEC World (BEC.BK/BEC TB)* บมจ. เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR.BK/MAJOR TB)* บมจ. แพลน บี มีเดีย (PLANB.BK/PLANB TB)* และบมจ. วีจีไอ (VGI.BK/VGI TB)* อยู่ที่ 383 ล้านบาท (-88% YoY) โดยผลประกอบการของ MAJOR ถูกกระทบหนักที่สุดในปีที่แล้ว จากการที่ต้องปิดบริการโรงภาพยนตร์ชั่วคราว และไม่มีโปรแกรมหนังเด็ดจากฮอลลีวู้ดมาลงโรงฉาย ในขณะที่ BEC เป็นเพียงบริษัทเดียวในกลุ่มที่ผลประกอบการปี 2563 ดีขึ้น YoY โดยขาดทุนลดลงจาก 397 ล้านบาทในปี 2562 เหลือ 214 ล้านบาท จากการปรับโครงสร้างธุรกิจซึ่งทำให้ต้นทุน รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง ขณะที่ผลประกอบการของหุ้นอื่นที่เราศึกษาในกลุ่มนี้ทุกตัว ต่างมีผลประกอบการชะลอตัวลงเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19

คาดว่าผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มทุกตัวที่เราดูแลอยู่จะดีขึ้นในปี 2564

เราเชื่อว่าผลประกอบการของหุ้นกลุ่มสื่อที่เราศึกษาอยู่ทุกตัวจะดีขึ้นตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป เนื่องจาก i) สถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้นจากการกระจายวัคซีน และ ii) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะทำให้ธุรกิจโฆษณาฟื้นตามไปด้วย ทั้งนี้ KGI ประเมินว่า GDP ของประเทศไทยปีนี้จะขยายตัวได้ 3.9% และเร่งตัวขึ้นเป็น 6.8% ในปี 2565 ดังนั้นเราจึงคาดว่าธุรกิจโฆษณาจะโต 6% YoY ในปี 2564 และ 9% YoY ในปี 2565 หลังจากที่หดตัวลงถึง 14% YoY ในปี 2563

ปรับประมาณการกำไรรวมของกลุ่มในปี 2564-65 เพื่อสะท้อนแนวโน้มที่เป็นบวกมากขึ้น

เราปรับเพิ่มประมาณการของ BEC เพื่อสะท้อนถึงผลประกอบการที่ดีเกินคาดในปี 2563 และแนวโน้มที่ดูสดใสมากขึ้นของธุรกิจโฆษณา และยอดขายคอนเทนท์ ของบริษัทตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป ในขณะเดียวกัน เราก็ปรับลดประมาณการของ VGI เพื่อสะท้อนถึงจำนวนผู้ชมโฆษณาตามสถานีรถไฟฟ้า BTS ที่ลดลงในช่วง 1Q63 – 3Q63 (เมษายน 2563 - ธันวาคม 2563) ซึ่งหลังจากปรับประมาณการแล้วทำให้ประมาณการของ BEC ในปี 2564-65 ดีขึ้นกว่าเดิม 13%-34% ในขณะที่ประมาณการของ VGI ลดลงจากเดิม 21% และ 3% ตามลำดับ ทั้งนี้ เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิของ MAJOR และ PLANB
ปี 2564-65 เอาไว้ที่ 941 ล้านบาท – 1.2 พันล้านบาท และ 799 ล้านบาท – 760 ล้านบาทตามลำดับ

Stocks for action

เราปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นกลุ่มสื่อขึ้นจากเดิม "เท่ากับตลาด" เป็น "มากกว่าตลาด" จากแนวโน้มผลประกอบการที่น่าจะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2564-65 นอกจากนี้เรายังขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2565 สำหรับหุ้นทุกตัวในกลุ่ม และปรับวิธีประเมินมูลค่าหุ้นของ BEC จาก DCF เป็น PER เนื่องจากเราคาด
ว่าบริษัทผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และผลประกอบการน่าจะแข็งแกร่งตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป เราประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ของBEC ที่ 14.30 บาท (PER 32.3 เท่า) MAJOR ที่ 27.75 บาท (PER 21.1 เท่า), PLANB ที่ 7.30 บาท (PER 37.2 เท่า) และ VGI ที่ 9.10 บาท (SOTP) เราเลือก BEC และ MAJOR เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มสื่อ เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการของทั้งสองบริษัทในปีนี้จะพลิกจากขาดทุนมาเป็นกำไร

Risks

ยอดโฆษณาชะลอตัว