'เกษตร' ดึง 'ไซเบอร์ออดิทฯ' สอบบัญชีป้องธุรกิจสหกรณ์

'เกษตร' ดึง 'ไซเบอร์ออดิทฯ' สอบบัญชีป้องธุรกิจสหกรณ์

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ติด”ไซเบอร์ออดิเตอร์”ไอทีสอบบัญชีในระดับสูง รู้เท่าทันทุจริตธุรกิจสหกรณ์มูลค่ากว่า 2.23 ล้านล้านบาทหวังใช้รักษาผลประโยชน์สมาชิก 12 ล้านคน

นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยว่า แนวโน้มปัญหาการทุจริตในสหกรณ์ที่เพิ่มขึ้นทุกปีจากหลายปัจจัยซึ่งกรมในฐานะหน่วยงานทำหน้าที่ตรวจสอบบัญชี ตลอดจนให้คำปรึกษาแนะนำ ให้ความรู้ด้านบริหารการเงินการบัญชีแก่สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร เร่งพัฒนางานตรวจสอบบัญชีให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร สามารถจัดทำบัญชีและงบการเงินได้ พร้อมทั้งควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีของผู้สอบบัญชี ให้เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพและตามที่ระเบียบกรมตรวจบัญชีสหกรณ์กำหนดอย่างเคร่งครัด

เพื่อให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรได้รับการตรวจสอบบัญชีอย่างโปร่งใส ปราศจากการทุจริต สามารถนำผลการตรวจสอบบัญชีและข้อสังเกตจากผู้สอบบัญชีไปแก้ไขปรับปรุง เพื่อให้การบริหารจัดการของสหกรณ์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ปัจจุบันที่สหกรณ์ไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีสมาชิกอยู่ทั่วประเทศกว่า 12 ล้านคน มีทุนดำเนินงานกว่า 3.56 ล้านล้านบาทและมีมูลค่าการดำเนินธุรกิจกว่า2.23 ล้านล้านบาท

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์จึงต้องเร่งพัฒนางานตรวจสอบบัญชี ควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีของผู้สอบบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานเพื่อผลักดันสหกรณ์ให้เกิดความเข้มเข็ง มีความโปร่งใสและสมาชิกได้รับประโยชน์สูงสุด โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆมาใช้เพื่อให้ก้าวทันกับยุคสมัยและตอบสนองกับการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ที่หลากหลายมากขึ้น

เช่น การเร่งพัฒนาผู้สอบบัญชีให้มีองค์ความรู้และทักษะด้านการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเป็นผู้สอบบัญชีที่มีสมรรถนะด้านไอทีในระดับสูง หรือ“ไซเบอร์ออดิทเตอร์”(CYBERAUDITOR) เพื่อสร้างคุณภาพและความเชื่อมั่นของผลงานการสอบบัญชี ให้มีความก้าวหน้า รวดเร็วและแม่นยำอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้  ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ตรวจสอบการจัดทำรายงานทางการเงินของสหกรณ์ต่าง ๆ ทั่วประเทศว่าเป็นไปอย่างถูกต้องครบถ้วน ทันเวลา ข้อมูลตรงตามความเป็นจริงและปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กำหนดไว้ หากพบว่ายังมีข้อบกพร่อง ต้องมีการรายงาน การสั่งการและมีข้อเสนอแนะให้ปรับปรุงแก้ไขให้ตรงตามความจริง เหมาะสมและทันเวลา

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ในรอบหลายปีที่ผ่านมา พบว่ารูปแบบการทุจริตในสหกรณ์ส่วนใหญ่เกิดจากตัวบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับสหกรณ์ หรือการใช้ช่องโหว่ทางเทคโนโลยีของเจ้าหน้าที่สหกรณ์แก้ไขปรับแต่งตัวเลขทางบัญชีเป็นเท็จ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อสมาชิก ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นต่อระบบสหกรณ์ไทย ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของผู้ตรวจสอบบัญชีในการสืบค้นข้อมูลในระบบอย่างละเอียด ดังนั้น สมาชิกอย่าไว้ใจคนใกล้ตัว ให้หมั่นตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรมการเงินของตนเองและสหกรณ์อย่างสม่ำเสมอ