เปลือยชีวิต 'แอน จักรพงษ์' ใครว่าเกิดเป็นตุ๊ด ไม่มีวันเจริญ?

“เกิดเป็นตุ๊ดไม่มีวันเจริญและประสบความสำเร็จ” เป็นประโยคที่ทำให้เราฮึด ที่จะเอาชนะ อยากจะลบคำสบประมาทคำนี้ให้ได้” แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ มหาเศรษฐีข้ามเพศ อันดับหนึ่งของเอเชีย มูลค่าทรัพย์สินกว่า 5,000 ล้านบาท ที่นิตยสาร ฟอร์บส จัดอันดับให้ เล่าถึงจุดเริ่มต้น

แอน จักรพงษ์ เกิดในครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน เป็นลูกชายคนโต มีน้องสาว 1 คน ที่บ้านเปิดร้าน VDO อยู่ที่ตลาดบางแค รู้ตัวตั้งแต่อายุ 5 ขวบว่า กายเป็นชาย ใจเป็นหญิง ในวัยเด็กชอบแอบไปลองใช้เครื่องสำอางของแม่ ใส่รองเท้าและชุดของแม่ 

เธอจึงถูกล้อเลียนบ่อยๆ หันมาเปลี่ยนปมด้อยให้เป็นปมเด่น ตั้งใจเรียน มีความประพฤติดี เป็นนักกิจกรรม นักโต้วาที เพื่อทำให้เห็นว่า แม้จะไม่ใช่ผู้ชายแท้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราผิด ชีวิตฉัน ฉันขอลิขิตด้วยตัวเอง

แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ 

เพราะมีความมุ่งมั่นมีความฝันอยากเป็นเบอร์ 1 ในอุตสาหกรรมวงการบันเทิงของเมืองไทย ต้องพูดให้ได้ 2 ภาษา เธอจึงขอคุณพ่อไปเรียนต่างประเทศตอนอายุ 16 ปี เรียนมัธยมปลายที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยทางบ้านให้เงินมาส่วนหนึ่ง แต่ค่าครองชีพสูง เธอจึงสมัครทำงานเป็นเด็กปั๊มน้ำมัน เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย จนสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ และเรียนจบปริญญาตรี ด้านรัฐศาสตร์ กลับมาเมืองไทยเพื่อรับช่วงกิจการต่อจากคุณพ่อ

“เรียนจบตอนอายุ 20 ปี กลับมาเมืองไทย พยายามทำหน้าที่ในฐานะลูกชายคนโต เป็นความรับผิดชอบที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด เพราะคุณพ่อคุณแม่ฝากความหวังเอาไว้ ธุรกิจร้าน ST VDO ช่วงนั้นวิดีโอไม่ได้รับความนิยมแล้ว ก็เลยเปลี่ยนเป็นร้านซีดีแทน ช่วงแรกธุรกิจดีมาก แต่หลังจากนั้น มีแผ่นผีละเมิดลิขสิทธิ์ออกมา ทำให้ค้นพบว่า สิ่งที่คนต้องการไม่ใช่วิดีโอหรือซีดี แต่เป็นเนื้อหา จึงเป็นจุดเริ่มต้นนำเข้าคอนเทนต์ (Content) จากต่างประเทศมาขายในเมืองไทย

• จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต

เมื่อประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว เธอจึงตัดสินใจเปิดเผยตัวตน ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต

“เป็นการวางคำว่าลูกชายคนโต ที่แบกไว้บนบ่ามานานกว่า 35 ปีลงไป รู้สึกดีใจมาก เพราะคุณพ่อบอกว่ารับได้ ขอเพียงแค่เป็นลูกที่ดี เป็นคนดีก็พอ คำพูดที่ทำให้เราดีใจที่สุดคือ ขอให้เป็นลูกสาวที่ดีของคุณพ่อเหมือนเดิม เหมือนตอนเป็นลูกชาย แต่คุณแม่ไม่สามารถรับเรื่องนี้ได้ ไม่ยอมพูดด้วย 3 ปี”

เมื่อครอบครัวยอมรับได้ จึงก้าวต่อสู่สังคมภายนอก ตอนนั้นจึงตัดสินใจไปเกาหลี

“จุดเริ่มต้นไปเกาหลีต้องการไปปลูกผม แต่ไปถึงคุณหมอบอกว่าจะแก้หน้าใหม่ให้ด้วย ก็บอกคุณหมอว่า ทำทั้งหน้าก็ได้ ถ้าเปลี่ยนให้เราเป็นผู้หญิงด้วย จึงได้ศัลยกรรมกว่า 10 จุด ปลูกผม ฉีดไขมันที่หน้าผาก ศัลยกรรมตาสองชั้น เสริมจมูก ลดโหนกแก้ม เสริมแก้ม เสริมร่องแก้ม ดึงหน้า ตัดกราม ทำคางวีไลน์ ทำรวดเดียวเลย ใช้เวลาผ่าตัด 18 ชั่วโมง พักฟื้น 1 เดือน แล้วบินกลับมาเมืองไทย เป็น แอน-จักรพงษ์ คนใหม่ ที่สวยและรวยมาก”

ธุรกิจนำเข้า-ส่งออกคอนเทนต์ ไปได้ดีจนได้รับฉายา ‘เจ้าแม่ภารตะพันล้าน’ เนื่องจากเป็นเจ้าแรกที่นำ ซีรีส์อินเดียมาเปิดตลาดในเมืองไทย จนได้รับความนิยมมาก และนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในเวลาต่อมา

แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ 

“วิชาชีวิต คือ เปลี่ยนแรงกดดันให้เป็นสติ ให้กลายเป็นแรงผลักดัน เปลี่ยนความสิ้นหวังให้เป็นแรงบันดาลใจ ต้องพยายามคิดบวก ต้องรู้จักวิเคราะห์ แต่ไม่ใช่เจออะไรแย่ ๆ จะคิดบวกไปหมดเสมอไป ก็ไม่ได้

ตั้งแต่ออกจากบ้านจนมาถึงตรงนี้ วางเป้าหมายชีวิตไว้เลยว่า ธุรกิจฉันต้องเข้าตลาดหลักทรัพย์ ต้องลบคำสบประมาทให้ได้ วิเคราะห์ถึงขั้นว่า อนาคตฉันจะยืนจุดไหน ไม่ใช่ว่าอยู่ดี ๆ จะมาเป็นข้ามเพศพันล้าน รวยขนาดนี้ได้ยังไง ง่าย ๆ มันไม่มีหรอก ซึ่งต้องขอบคุณทุกคนที่เหยียดหยามเรา เพราะถ้าไม่มีวันนั้น เราก็มาไม่ถึงวันนี้

 

• โครงการข้ามเพศให้ถึงฝั่งฝัน

ก่อนหน้านี้ แอน จักรพงษ์ เคยเปิดตัวหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊ค Call Me Anne ข้ามเพศพันล้าน และก่อตั้ง มูลนิธิข้ามเพศบันดาลใจ (Life Inspired For Transsexuals Foundation หรือ LIFT) จัดโครงการ ข้ามเพศให้ถึงฝั่งฝัน (LIFT To Touch The Sky) เพื่อรณรงค์ผลักดันกฎหมายช่วยเหลือเหยื่อข้ามเพศ สิทธิของคนข้ามเพศ “เปลี่ยนเพศ ต้องเปลี่ยนคำนำหน้า” เพื่อให้ได้ สิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบทางกฎหมาย ให้เป็นไปตามเพศสภาพ สนับสนุนให้มีความรู้ มีการศึกษาไม่ถูกดูถูกเหยียดหยามและเอารัดเอาเปรียบ

“เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้แอนไม่ไว้ใจใครอีกแล้วในชีวิต กลายเป็นคนระวังรอบคอบ เวลาเห็นอะไรที่เราไม่ชอบ หรือเวลาถูกเอาเปรียบจะมีการปะทะกลับแบบอัตโนมัติเลย มารู้ทีหลังยังมีเด็กคนอื่นโดนแบบเราอีก 4-5 คน พ่อแม่เขาก็ไม่ยอมและมาขับไล่เขาออกไป จากคนที่กลัวขี้อายกลับกล้าแสดงออก ลุกขึ้นมากล้าโต้วาที เพราะความคับแค้นใจ

แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ 

พออายุ 13 ตัดสินใจเลยว่าจะเป็น โอปราห์ วินฟรีย์ ประเทศไทย ต้องเป็นนักพูดให้ได้ ไมค์ในมือจะทำให้เรามีอำนาจ และไม่มีใครกล้ามาทำร้ายเราได้อีก ตัดสินใจทำพ็อกเก็ตบุ๊คขึ้นมา ไม่หวังเอาเงินสักบาท รายได้ทุกบาททุกสตางค์ไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ เข้ามูลนิธิข้ามเพศบันดาลใจ เป็นมูลนิธิที่แอนก่อตั้งขึ้น เพื่อให้การศึกษากับคนข้ามเพศ อยากให้คนข้ามเพศทุก ๆ คนมีโอกาสกับชีวิตที่ไม่ได้ถูกข่มเหงไม่ได้ถูกดูถูกเหมือนที่แอนเคยโดน

หนังสือเล่มนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้รู้ว่า สิ่งที่หล่อหลอมให้คน ๆ หนึ่งประสบความสำเร็จ ก็คือการสู้ไม่ถอย เราอยู่ในร่างของผู้ชาย เลยต้องโฟกัสไปที่งาน กลายเป็นคนบ้างาน เดินหน้าทำงานอย่างเดียว นั่นคือสิ่งที่เราสามารถทดแทนบุญคุณพ่อกับแม่ได้”

จนเป็นที่มาของ JNK หรือบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) มีบริษัทย่อยๆ 4 บริษัทคือ บริษัท เจเคเอ็น แชนเนล จำกัด, บริษัท เจเคเอ็น ไอเอ็มซี จำกัด, บริษัท เจเคเอ็น โนว์เลดจ์ จำกัด และ บริษัท เจเคเอ็น นิวส์ จำกัด จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 ขายลิขสิทธิ์ประเภทซีรีส์ การ์ตูน สารคดี จากหลากหลายประเทศ จำหน่ายลิขสิทธิ์ให้กับผู้ประกอบธุรกิจสถานีโทรทัศน์ทุกระบบ รวมถึงผ่านระบบวิดีโอออนดีมานด์ และโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์อย่าง ดีวีดี และบลูเรย์

ล่าสุด ผลประกอบการปี 2563 มีผลกำไรกว่า 400 ล้านบาท มีรายได้มากกว่า 1700 ล้านบาท เติบโตจากเดิม 25 เปอร์เซ็นต์ ปีที่แล้วเธอพาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ ธุรกิจสุขภาพ ความงาม เครื่องดื่ม ครบวงจร ก้าวสู่อาณาจักรพันล้าน ปัจจุบันมีทรัพย์สินรวมกว่า 10,000 ล้านบาท

• คุณแม่ลูกสองสุดแซ่บ

“แพลนตั้งแต่แรกแล้วว่าอยากมีลูก จึงใช้วิธีอุ้มบุญ ลูกเกิดจากการปฏิสนธิในท้องแม่อุ้มบุญ ลูกชายชื่อ แอนดรูว์ ลูกสาวชื่อ แองเจลิก้า เป็นลูกครึ่งเยอรมันไทยทั้ง 2 คน แอนไปหาไข่ของผู้หญิงอเมริกันเชื้อสายเยอรมัน ค่าใช้จ่ายคนละ 15 ล้านบาทในการผสมออกมาเป็นลูกเรา ผู้หญิงเจ้าของไข่ที่จะมาผสมกับสเปิร์มของเรา ผมสีบลอนด์ ตาสีน้ำตาล เป็นจิตแพทย์ สวยมาก สุขภาพดี จิตใจ ไอคิว ทุกอย่างดีหมด มีทีมงานทั้งหมด 7 คนช่วยดูแลลูกทั้ง 2 คน”

แอนดรูว์ และ แองเจลิก้า  ทายาทแอน จักรพงษ์

คุณแม่ลูกสองที่แซ่บมาก แอน จักรพงษ์ พูดถึงลูกชายและลูกสาว สายเลือดแท้ๆ ของตัวเองให้ฟังว่า

“อากงรู้ว่าหลานๆ เป็นลูกครึ่งเยอรมัน ก็รู้สึกตื่นเต้น เพราะน่ารักดี ทุกสิ่งเป็นไปได้ หากเรามุ่งมั่นตั้งใจ ยอมรับตามตรงค่ะว่า เมื่อเกือบ 6 ปีที่แล้วตอนหนีออกจากบ้าน ไม่เคยนึกฝันว่าจะมีภาพนี้ปรากฏต่อสายตาตัวเองว่า แอนเป็นผู้หญิงเต็มตัวและเป็นแม่ลูกสอง ที่มีทั้งอากง และยายย่าให้พวกเขาอยู่ ณ สถานที่เดียวกันได้อีกครั้ง

แอนอยากเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้คิดว่า ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเป็นไปได้ หากคุณมุ่งมั่นตั้งใจ อย่าย่อท้อ ยิ่งเกิดมาด้อยกว่าคนอื่น หรือยิ่งเกิดมาต่าง ไม่ปกติเหมือนใคร ยิ่งต้องสู้เพื่อพิสูจน์ตน ยิ่งเรียนรู้ยิ่งเก่ง เกิดมาเป็นคน ทุกคนต้องสู้จึงจะชนะค่ะ จงเรียนรู้ที่จะโบยบิน ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะ”