กางแผนฉีดวัคซีนโควิด-19 ระยะสอง "จำกัดวันละ500โด๊ส" ใน รพ.1,000แห่ง

กางแผนฉีดวัคซีนโควิด-19 ระยะสอง "จำกัดวันละ500โด๊ส" ใน รพ.1,000แห่ง

กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา เชิญกรมควบคุมโรค แจงแผนฉีดวัคซีนกันโควิด-19 ออกโรงการันตี ฉีดครบ63ล้านโด๊สภายในปี64 พบการกระจายวัควีนจำกัด รพ.1,000แห่ง จำกัด 500โด๊สต่อวัน

       นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 มีนาคม กมธ.ฯ ได้เชิญผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุข อาทิ นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค เข้าชี้แจงต่อการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้ประชาชน ตามสิทธิของประชาชนที่เข้าถึงและได้รับวัคซีน โดยมีคำยืนยันจากผู้ชี้แจงจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า คนไทยจะได้รับการฉีดวัคซีน 63 ล้านโด๊สได้ครบภายในปี 2564 อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
       ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าสำหรับคำชี้แจงที่เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรคให้ไว้กับกมธ.ฯ ระบุย้ำถึงการแบ่งฉีดวัคซีน เป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่วัคซีนมีจำกัด จะให้บริการตามกลุ่มเป้าหมาย เพื่อลดการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต ในกลุ่มประชาชนที่มีโรคประจำตัวและบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุข รวมถึงผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวกับการควบคุมโรค ทั้งนี้วางกรอบการฉีด ไว้ในเดือนมีนาคม ถึงพฤษภาคม 2564 ใน 18 จังหวัด และระยะที่วัคซีนมีมากขึ้นและเพียงพอ จะขยายกลุ่มเป้าหมายจากระยะแรก ออกไปยังบุคคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขอื่นๆ ที่นอกเหนือจากด่านหน้า รองลงมาคือ ผู้ประกอบอาชีพการท่องเที่ยวและการบริหาร, ผู้เดินทางระหว่างประเทศ เช่น นักบิน ลูกเรือ นักธุรกิจระหว่างประเทศ , ประชาชนทั่วไป, นักการทูต เจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศ นักธุรกิจต่างชาติ คนต่างชาติพำนักระยะยาว และแรงงานในภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ โดยวางกรอบการฉีดไว้ที่เดือนมิถุนายน ถึงเดือนธันวาคม ในทุกจังหวัด

       สำหรับการจัดสรรวัคซีน จำนวน 63 ล้านโด๊ส ในปี 2564 นั้น แบ่งสัดส่วน คือ วัคซีนของซิโนแวค จำนวน 2 ล้านโด๊ส ที่คาดว่านำเข้าได้ครบในเดือนเมษายน 2564 จะแบ่งเป็นเพื่อปกป้องระบบสุขภาพ และลดอัตราป่วยและตาย จำนวน 1.778ล้านโด๊ส, เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จำนวน 2แสนโด๊ส และไว้สำรองกรณีระบาดฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 21,300 โด๊ส
       วัคซีนของแอสตร้าซิเนก้า จำนวน 26 ล้านโด๊ส  ที่นำเข้าได้ช่วงเดือนมิถุนายน - สิงหาคม 2564 ใช้เพื่อปกป้องระบบสุขภาพ จำนวน  18,200 ล้านโด๊สล เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 6.5 ล้านโด๊ส และ เพื่อสำรองฉุกเฉิน จำนวน  1.3 แสนโด๊ส และ ส่วนของแอสตร้าซิเนก้า จำนว 35 ล้านโด๊ส ที่นำเข้าเดือนกันยายน - ธันวาคม 2564 แบ่งใช้เพื่อปกป้องระบบสุขภาพ จำนวน   17.5ล้านโด๊ส, เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จำวน  16.8ล้านโด๊ส และเพื่อฉุกเฉิน จำนวน 7แสนโด๊ส
       สำหรับการกระจายฉีดวัคซีนนั้น ในการวางแผน คือ ระยะแรกจะให้บริการในโรงพยาบาลเป้าหมาย 1,000 แห่ง ให้บริการ 500 โด๊สต่อวัน จากนั้นจะขยายพื้นที่ให้บริการให้ครอบคลุม.