สั่งทุกหน่วยงานเกาะติดไฟป่าหมอกควัน 5 จว.เหนือ หลังฝุ่น PM2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน

สั่งทุกหน่วยงานเกาะติดไฟป่าหมอกควัน 5 จว.เหนือ หลังฝุ่น PM2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน

“รองแม่ทัพภาคที่ 3” สั่งทุกหน่วยงานเกาะติดไฟป่าหมอกควัน 5 จังหวัดเหนือ หลังพบมีการเผาหนักดันค่าฝุ่น PM2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน เผยจุดความร้อนในพื้นที่ภาคเหนือมากถึง 609 จุด แม่ฮ่องสอนแชมป์ เชียงใหม่รั้งอันดับสอง

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า กองพลทหารราบที่ 7 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เป็นประธานในการประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองภาคเหนือ ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมีส่วนราชการในพื้นที่เข้าร่วม เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ตลอดจนแนวทางการแก้ไขปัญหาในแต่ละพื้นที่

สำหรับสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ พบจุดความร้อน ที่เก็บข้อมูล โดยระบบดาวเทียม VIRS ในพื้นที่ภาคเหนือมีทั้งหมด 609 จุด แบ่งเป็นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 428 จุด พื้นที่ป่าสงวน 160 จุด โดยจังหวัดพบมากที่สุดคือ จ.แม่ฮ่องสอน 215 จุด ส่วนจังหวัดเชียงใหม่พบมากเป็นอันดับที่ 2 พบทั้งหมด 135 จุด

161519421488

ส่วนสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่พบว่าตัวเมืองเชียงใหม่ ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควัน โดยสามารถวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ อยู่ที่ 109 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 10 อยู่ที่ 139 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า แม่ทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการให้มีการติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือตอนบนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดลำปาง ตาก แม่ฮ่องสอน เชียงราย และจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีค่าฝุ่นละออง PM 2.5 และค่า AQI สูงขึ้น เนื่องจากสภาพพื้นที่   และสภาพอากาศประกอบกับเกิดการเผาในพื้นที่ เพื่อเตรียมพื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งเป็นวิธีที่จะจำกัดวัชพืชได้ง่ายและไม่มีค่าใช้จ่ายมาก ที่สำคัญการเผากลายเป็นวัฒนธรรมที่ทุกคนสามารถทำได้ นอกจากนี้ยังพบว่ามีการบุกรุกใช้พื้นที่ป่าสงวนและป่าอนุรักษ์เพื่อเป็นที่ทำกิน ประกอบกับแต่ละจังหวัดมีมาตรการการบริหารจัดการเชื้อเพลิงอยู่ แต่ประชาชนไม่ได้ทำตามแผนที่วางไว้ สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดปัญหาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้  สถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองก่อให้เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยว เศรษฐกิจที่ทำให้สูญเสียรายได้ ดังนั้นขอความร่วมมือทุกจังหวัดลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนสร้างการรับรู้ถึงโทษและพิษภัย ของสถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละออง พร้อมขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพในช่วงนี้

161519415055