วิกฤต! ค่าฝุ่น PM2.5 เชียงใหม่ พุ่งอันดับ 1 ของโลก

วิกฤต! ค่าฝุ่น PM2.5 เชียงใหม่ พุ่งอันดับ 1 ของโลก

วิกฤต! ค่าฝุ่น PM2.5 เชียงใหม่ พุ่งอันดับ 1 ของโลกเมืองที่อากาศแย่ที่สุด ขณะที่ประชาชนยังลักลอบเผาป่าทุกวัน

เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 64 เว็บไซต์ IQAir จัดอันดับคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ สภาพอากาศแย่เป็นอันดับที่ 1 ของโลก โดยวัดค่าดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 220 US AQI อยู่ในระดับไม่ดีต่อสุขภาพ ส่วนสภาพอากาศในตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่เช้าวันนี้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่สถานีตรวจวัดสภาพอากาศ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ค่า PM2.5 วัดได้ 114 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วนสถานีตรวจวัด ต.ศรีถูมิ ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ และต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม ค่า PM2.5 วัดได้ 76-84 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

161517139524

ขณะที่เช้าวันนี้จากการตรวจสอบ จุด Hotspot ของศูนย์บัญชาการป้องกันแก้ไข ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ พบจุด Hotspot จากดาวเทียม ในพื้นที่ป่าสงวนจำนวน 51 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์จำนวน 83 จุด เขต สปก. จำนวน 1 จุด รวมเป็น 135 จุดจึงได้ประสานให้ทางเจ้าหน้าที่เสือไฟสํานักอนุรักษ์ที่ 16 จังหวัดเชียงใหม่เข้าดำเนินการออกตรวจลาดตระเวนและช่วยกันดับไฟป่ากันอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า จังหวัดเชียงใหม่ได้ ประสานขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตักน้ำเข้าไปดับไฟป่าในพื้นที่บนดอยสูงชัน ในพื้นที่อำเภอบ้านโฮ่งและอำเภอลี้จังหวัดลำพูน เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่เสือไฟภาคพื้นดินไม่สามารถเดินขึ้นไปดับไฟป่าได้ จำนวนหลายเที่ยวบินเช่นเดียวกับสำนักอนุรักษ์ที่ 16 จังหวัดเชียงใหม่ได้ระดมเจ้าหน้าที่เสือไฟ และอาสาสมัครไฟป้องกันไฟป่า เข้าไปดับไฟ ป่าที่มีชาวบ้านไปหาของป่าและลักลอบเผาจำนวนหลายจุดบางพื้นที่ก็มีการใช้เครื่องเป่าลมทำแนวกันไฟ เพื่อป้องกันไฟป่าลุกลามเข้าไปยังชุมชน

อย่างไรก็ตาม ทาง พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า จังหวัดเชียงใหม่ ได้ประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ หน่วยบินจากเครื่อง U-17, KA-32, UAV (ทอ.), AS-350 B2 (ฝนหลวง/ทส.), ตลอดจนโดรนจิตอาสา, พารามอเตอร์เข้าร่วมจัดทำแผนร่วมกันในการเตรียมความพร้อมปฏิบัติงาน ภายหลังสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่เริ่มมีผลกระทบกับประชาชน ที่ บก.คฟป.ทภ.3 สน. สโมสรยอดทัพบันเทิง กองพลทหารราบที่ 7 อ.เเม่ริม จว.เชียงใหม่ โดยกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า จัดกำลังชุดลาดตระเวนเพิ่มเติมจากกำลังทหาร และทหารพราน 7 ชุดปฏิบัติการ จากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 และกรมทหารพรานที่ 32,33, 35 ลงพื้นที่จังหวัดลำปาง แม่ฮ่องสอน โดยพร้อมออกปฏิบัติงาน 24 ชั่วโมง