อ่อนตัว

อ่อนตัว

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวรับ 1525 / 1518 จุด แนวต้าน 1543 / 1550 จุด แนะนำ เก็งกำไร PSL UTP PTTEP ทางเทคนิคจะเกิดสัญญาณขายทำกำไร หากดัชนีฯ หลุดแนวรับสำคัญ 1530 จุด ปัจจัยลบ คือ แรงขายหุ้นโลก เพราะกังวลยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี พุ่งต่อ (วานนี้แตะ 1.57% Vs วันก่อนหน้า 1.46%) หลังประธานเฟดส่งสัญญาณไม่มีการออกมาตรการควบคุมความผันผวนในตลาดพันธบัตร ปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ การเริ่มต้นประชุมสมัชชาประชาชนแห่งชาติและดุลการค้าเดือน ก.พ. ของจีน (จับตาเป้าหมายเติบโตเศรษฐกิจจีนตลอด 5 ปีข้างหน้า อาจชะลอลง หากทางการจีนหันมาเน้นนโยบายคุมเข้มทดแทน) รายงานจ้างงานเดือน ก.พ. สหรัฐฯ (คาดจ้างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย) และเงินเฟ้อไทยเดือน ก.พ. (คาดปรับขึ้นเล็กน้อย)

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้

        1) ประธานเฟด พาวเวล สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน โดยไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการควบคุมความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดพันธบัตร (-ตลาดหุ้นโลก)

        2) พรรครีพับลิกันพยายามถ่วงการพิจารณาร่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไบเดน ส่งผลให้การอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ USD1.9Trn อาจต้องล่าช้าไปถึงสัปดาห์หน้า (-ตลาดหุ้นสหรัฐฯ)

        3) Ex-Dividend วันนี้ คาดมีผลกระทบต่อดัชนีฯ -0.68 จุด นำโดย GULF CBG

        4) ราคาน้ำมันพุ่งแรง 4.2% รับข่าวกลุ่มโอเปคพลัสมีมติคงเพดานการผลิต และซาอุฯ ลดการผลิต 1 ล้านบาร์เรล ตามเดิม (+กลุ่มพลังงานต้นน้ำ PTTEP )

เศรษฐกิจวันนี้

USA-รายงานจ้างงานสหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาด +182k (Vs เดือน ม.ค. 49k) และอัตราว่างงานเดือน ก.พ. คาด 6.3% เท่าเดิม / China-เริ่มประชุมสภาประชาชนประจาปี / ไทย-เงินเฟ้อเดือน ก.พ. คาด -0.2% YoY (Vs เดือน ม.ค. -0.34% YoY), Core Inflation Rate เดือน ก.พ. +0.2% YoY (Vs เดือน ม.ค. +0.21% YoY) / China-(วันอาทิตย์) รายงานดุลการค้าเดือน ก.พ. (Vs เดือน ม.ค. เกินดุล USD78.17bn, ส่งออก +18.1% YoY นำเข้า +6.5% YoY)

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดลบหลังขึ้น 4 วัน: ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงตั้งแต่เปิดตลาด และเคลื่อนไหว Sideways Down กรอบ 1528-1540 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1534.11 จุด -9.29 จุด -0.60% วอลุ่ม 1.09 แสนล้านบาท นำลงโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -6.88% ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ -1.75% ขนส่งและโลจิสติกส์ -1.30% ส่วนกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง +4.1% เงินทุนและหลักทรัพย์ +2.76% หุ้นบวก >4% MTC SAWAD STEC CK BEC TTA BPP JKN NETBAY KWM BLA TSTH หุ้นร่วง >4% COM7 SYNEX SIS J ASIMAR OTO

- ตลาดหุ้นโลกส่วนใหญ่ปิดลบ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงต่อเนื่อง DJ -1.11% (-345.95 จุด) S&P500 -1.34% Nasdaq -2.11% นำลงโดยกลุ่มเทคโนโลยี เนื่องจากยิลด์พันธบัตร 10 ปี พุ่งขึ้นเป็น 1.57% (Vs วานนี้ 1.46%) หลังจากประธานเฟดส่งสัญญาณว่าแรงกดดันเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น เป็นเพียงผลกระทบจาก Base Effect และไม่ได้มีการเตรียมออกมาตรการควบคุมความผันผวนในตลาดพันธบัตรแต่อย่างใด ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดผสมผสาน DAX -0.17% CAC40 +0.01% FTSE -0.37% กังวลยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ ที่พุ่งขึ้นแรงและเงินเฟ้อที่เร่งขึ้น นำลงโดยกลุ่มเทคโนโลยี เหมืองแร่

+/- น้ำมันพุ่ง แต่ทองร่วง: ราคาน้ำมันดิบโลกปิดบวกต่อเนื่อง WTI +USD2.55 +4.2% ปิดที่ USD63.83/บาร์เรล Brent +USD2.67 +4.2% ปิดที่ USD66.74/บาร์เรล รับข่าวที่ประชุมกลุ่มโอเปคพลัส มีมติคงเพดานการผลิตที่ระดับเดิม ไปจนถึงเดือน เม.ย. (ลดการผลิต 7.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน) แต่อนุญาตให้รัสเซียและคาซัคสถานผลิตเพิ่มได้ 1.3แสน และ 2 หมื่นบาร์เรลต่อวัน เพื่อรองรับความต้องการในประเทศ รวมถึงซาอุฯ ยังคงสมัครใจลดการผลิต 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไปจนถึงสิ้นเดือน เม.ย. และราคาทองคค ปิดร่วงต่อเนื่อง -USD15.10 ปิดที่ USD1,700.70/ออนซ์ ต่าสุดตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย. 2020 เนื่องจากยิลด์พันธบัตรรัฐบาลที่พุ่งขึ้น

ประเด็นสำคัญ

+ OPEC Plus: มีมติคงการผลิตไว้ที่ระดับเดิมในเดือน เม.ย. ยกเว้นรัสเซีย และคาซัคสถาน ที่ให้ผลิตเพิ่ม 1.3 แสน และ 2 หมื่นบาร์เรลต่อวัน รวมถึงซาอุฯ ขยายการลดการผลิตแบบสมัครใจ จำนวน 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน

- USA: ประธานเฟด Powell สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน โดยไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการควบคุมความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดพันธบัตร เพราะเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น เป็นผลจากการกลับมาเปิดเศรษฐกิจ หลังมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ (Base Effect)

+ USA: Weekly Initial Jobless Claims เพิ่มขึ้น 745k (Vs คาด 750k และสัปดาห์ก่อน 736k) เนื่องจากการขาดแคลนมาตรการกระตุ้นทางการคลัง

- Ex-Dividend Effect: การขึ้นเครื่องหมาย XD ของบจ.มีผลต่อดัชนีฯ วันศุกร์ -0.68 จุด นำโดย GULF 0.39 บาท, CBG 0.13 บาท

+ Opportunity Day: วันนี้ PJW JUBILE JWD NVD BPP BANPU PLANB

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: PSL CPF AH

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: PSL UTP PTTEP

Derivatives: เปิดสถานะ Long เก็งกำไรภายในวัน (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)