WHAUP - ซื้อ

WHAUP - ซื้อ

ปีแห่งการฟื้นตัว

Event

ประชุมนักวิเคราะห์

lmpact

คาดหวังปัจจัยบวกระยะสั้นจาก การทำดีล M&A โซลาร์ในเวียดนาม

โอกาสการลงทุนในต่างประเทศจะอยู่ที่การทำดีล M&A Vietnam Solar M&A (กำลังการผลิตอยู่ในช่วง100MW -300MW) ซึ่งอยู่ในกระบวนการทำ due diligence และคาดว่าจะมีความคืบหน้าใน 2Q64 โดย WHAUP ตั้งใจจะถือหุ้นในโครงการนี้ 90-100% เราประเมินอัพไซต์เบื้องต้นราว 0.2-0.3บาท/หุ้น ซึ่งอิง i) สัดส่วน 100% ในโครงการ ii) มูลค่าการลงทุน 1.5ล้านดอลลาร์สหรัฐ/เมกะวัตต์ ซึ่งน่าจะช่วยทำให้กำไรหลักในปี 2564 เติบโตเพิ่มขึ้นอีก 5% ใน 2H64

SDWTP จะยังไม่ถึงจุดคุ้มทุนในปีหน้า แต่น่าจะถึงในปี 2566

SDWTP เร่งปริมาณยอดขายน้ำได้ช้ากว่าที่คาดไว้เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ระบาด อย่างไรก็ตาม อัตราการใช้กำลังการผลิตในปี 2563 ก็อยู่ที่เกือบ 50% และน่าจะเพิ่มเป็น 70% ได้ในปีนี้เนื่องจากปริมาณยอดขายน้ำเพิ่มขึ้นจาก i) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และ ii) มีอุปสงค์ใหม่จากการเชื่อมท่อประปากับผู้ใช้ในภาคอุตสาหกรรมในสองจังหวัด (Hung Yen และ Bac Ninh) ในขณะเดียวกัน รัฐบาลในท้องถิ่นก็น่าจะอนุมัติให้บริษัทปรับขึ้นค่าน้ำได้ใน 2H65 (จาก VND7,000-8,000/ม.3 เป็น VND9,000-10,000/ม.3) ทั้งนี้ ตามปกติแล้วธุรกิจน้ำในเวียดนามจะใช้เวลา 3-5 ปีกว่าจะถึงจุดคุ้มทุนซึ่งในกรณีนี้ก็เช่นกัน

ปรับลดประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักในปี 2564 ลง 20.7% จากโครงการ SDWTP และการปรับประมาณการของธุรกิจนํ้าในประเทศ

เราปรับลดประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักในปี 2564 ลง 20.7% เนื่องจาก i) ปรับลดอัตราการใช้กำลังการผลิตของ SDWTP ลงจาก 75% เหลือ 70% ii) รวมค่าใช้จ่าย amortization (32 ล้านบาท) และ iii)ปรับประมาณการปริมาณยอดขายน้ำในประเทศ และอัตรากำไรขั้นต้นในปี 2564 (Figure 1)

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ WHAUP และประเมินราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 5.20 บาท ทั้งนี้ WHAUP กำลังศึกษาดีล M&A โครงการ solar ในเวียดนามอยู่ 2-3 ดีล ซึ่งน่าจะเห็นความคืบหน้าใน 2Q64 ในขณะเดียวกัน โครงการ solar rooftop ก็จะเป็นกลุ่มหลักที่สร้างการเติบโตให้ธุรกิจในประเทศ โดยบริษัท
ตั้งเป้าจะเพิ่มกำลังการผลิตในปีนี้เป็น 90MW จากปัจจุบันที่ 51MW ส่วนปริมาณยอดขายน้ำในประเทศกำลังฟื้นตัวกลับไปอยู่ระดับก่อน COVID-19 ระบาด เพราะไม่ประสบปัญหาภัยแล้ง และมีอุปสงค์ใหม่เพิ่มเข้ามาจากโรงไฟฟ้า IPP ของ GULF และจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในปี 2564

Risks

ความล่าช้าในการจัดสรรกำลังการผลิตใหม่, การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของทางการ, โรงไฟฟ้าหยุดผลิตไฟฟ้า และความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการใหม่