‘LAO DOG’ อีสานสไตล์ตะวันตก ‘เมนูเด็ด’ ที่ ‘Monkey Pod’
หมูหวานประทับ ฮอทด็อกหมันโถวทอดไส้กั่ว หรือ “LAO DOG” ซึ่งเป็น “เมนูเด็ด” สไตล์อีสานตะวันตก ที่ร้าน ‘Monkey Pod’ ทาปาสบาร์เรสเตอรอง แอนด์ คาเฟ่ อยู่ในซอยสุขุมวิท 13 ภายในบ้านโคโลเนียลไม้สักทอง อายุกว่า 100 ปี บรรยากาศสุดคลาสสิก
ฮอทด็อกหมันโถวทอดไส้กั่ว หรือ “LAO DOG” "เมนูเด็ด" ที่หมูหวานชื่นชอบ
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารสไตล์ “ทาปาส” มีความ “ทวิสต์” ทว่ารสชาติอร่อยมีเอกลักษณ์ อย่างเช่น “LAO DOG” อาหาร “อีสานสไตล์ตะวันตก” (East meets West) สร้างสรรค์เมนูโดย เชฟดู่-ทวีศักดิ์ พุทธาวงศ์ เชฟเชื้อสายลาว วัย 36 ปี ผู้มากประสบการณ์ในการทำอาหารหลากหลายสัญชาติ จากเมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม และสหราชอาณาจักร ก่อนมารับหน้าที่ Development Chef โรงเรียนสอนทำอาหารบลูเอเลเฟ่นท์ กรุงเทพฯ
ข้าวผัดแจ่วบองเนื้อแบล็คแองกัสย่างปลาร้า ไข่ดองนํ้าปลา
นอกจากอาหารอร่อยถูกใจหลากหลายเมนูแล้ว เสน่ห์ของร้าน “Monkey Pod” ทาปาสบาร์เรสเตอรองแอนด์คาเฟ่ ซอยสุขุมวิท 13 ก็คือ อยู่ท่ามกลางบรรยากาศสุดคลาสสิกเนื่องจากเป็นบ้านเก่าที่สร้างในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เจ้าของบ้านเดิมหนีลูกระเบิดจากตลาดน้อย เนื่องจากใกล้กับสถานีรถไฟหัวลำโพง มาสร้างบ้านพักที่เงียบสงบ ณ ทุ่งบางกะปิ (เดิม) นอกจากบ้านไม้สักทองอันงดงาม สไตล์โคโลเนียลอายุกว่า 100 ปี แล้ว ยังมีต้นจามจุรียักษ์ ที่มีอายุยืนยาวคู่กับบ้านหลังนี้ และ "Monkey Pod" แปลว่า "ต้นจามจุรี" นั่นเอง ณ แห่งนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันน่าค้นหาจริงๆ จะเลือกนั่งภายในบ้านที่เย็นฉ่ำด้วยเครื่องปรับอากาศ หรือไปนั่งโซนด้านนอกรับลมเย็น ท่ามกลางความร่มรื่นและสีเขียวขจีของแมกไม้นานาชนิด อย่างไร้ความกังวัลจากโควิด-19 จากนั้นเตรียมสั่ง “เมนูเด็ด”
บ้านไม้สักทองสไตล์โคโลเนียลยามค่ำคืน
เนื้อย่างสไลต์ Monkey Pod (หมักปลาร้า)มีให้เลือกทั้งพอร์คชอปและเนื้อแบล็คแองกัส รับประทานคู่กับจิ้มแจ่วปลาร้าและยำสามชี
หากพูดถึง “เมนูเด็ด” หมูหวานก็ต้องคิดถึง “LAO DOG” บอกเลยว่าปลื้มมาก เป็น ฮอทด็อกหมันโถวทอดไส้กั่ว (LAO DOG) ซิกเนเจอร์เมนูของ Monkey Pod เชฟได้รับแรงบันดาลใจจากหมันโถวทอดสไตล์ไต้หวัน ที่หอมกลิ่นนมเนย รับประทานคู่กับไส้กั๋ว สูตรพิเศษ ความลงตัวรสชาติที่โดดเด่น ที่มีเอกลักษณ์ของไส้อั่วและไส้กรอกอีสาน ซึ่งเชฟได้รับการถ่ายทอดสูตรลับมาจากของคุณแม่ของเชฟ เคียงมาด้วยแจ่วมะเขือเทศ พูดแล้วก็อยากกินขึ้นมาอีกทันทีทันใดเลย สำหรับเมนูนี้ ราคา 179 บาท
“LAO DOG ก็จะคล้ายๆกับ ฮอทด็อก มีสตรอรี่นิดหนึ่ง ข้างล่างจะเป็นหมั่นโถวทอด ตอนผมทำงานอยู่ที่ลอนดอน ทำงานอยู่ร้านอาหารไต้หวัน ขายเบอร์เกอร์ไต้หวันใช้แป้งแบบซาลาเปา แล้วตรงกลางก็จะเป็นไส้กั่ว อยู่ตรงกลางระหว่างไส้อั่ว กับไส้กรอกอีสาน ไส้กรอกปกติเราจะใส่ข้าวลงไปเพื่อให้หมักนิดหนึ่ง แต่ก็จะมีเครื่องเทศเช่นตะไคร้ ใบมะกรูดก็จะเหมือนกับไส้อั่วนิดหนึ่ง ส่วนปีกไก่น้ำปลาหวานไอเดียมาจาก มะม่วงน้ำปลาหวาน เราเอามาเคลือบกับไก่ทอด แล้วมีพิวเร่ ทำจากมะม่วงน้ำดอกไม้ดิบ ก็จะให้รสชาติที่หวานๆเปรี้ยวๆ บวกกับความมันกรอบของไก่ทอด”
เมนูถัดมา สำหรับคนที่รักเนื้อ ต้องไม่พลาดนั่นก็คือ ข้าวผัดแจ่วบองเนื้อแบล็คแองกัสย่างปลาร้า ไข่ดองนํ้าปลา (BLACK ANGUS 4-5 MB PLA RA KHAO PHAD JEOW BONG) เชิญชวนมาอิ่มเบา ๆ และสัมผัสความหอมละมุนของสมุนไพรจากแจ่วปลาร้าบองลาว ที่นำมาผัดคลุกเคล้ากันอย่างลงตัว เสิร์ฟกับ “เนื้อแบล็คแองกัส” ย่างปลาร้าที่นุ่มกำลังพอดี ท็อปปิ้งด้วยไข่ดองนํ้าปลา หน้าตาเชิญชวนมากๆ จานนี้ราคา 279 บาท
ลาบหมูทอดตุ๋นเบียร์ (LARB MOO TOD) ความพิเศษของเมนูนี้ คือ การคัดเนื้อหมูส่วนคากิและหมูสามชั้นนำมาตุ๋นกับเบียร์ และสมุนไพรจนเปื่อยนุ่ม แล้วนำมาทอดจนเหลือง กรอบ รับประทาน คู่กับ พิวเรลาบ (Larb puree ) กินเล่นแบบเพลิดเพลิน แกล้มเครื่องดื่มไม่ต้องทานข้าวก็ยังไหวนะคะเนี้ย (ราคา 169 บาท)
เครื่องดื่มแก้วนี้มีชื่อว่า Monkey Planet มีความเผ็ดนิดๆของพริกหมูหวานชอบมาก
อีกหนึ่ง “เมนูเด็ด” ที่หมูหวานกินไม่ยั้งนั่นก็คือ ปีกไก่ทอดนํ้าปลาหวาน (NAM PLA WAAN CHICKEN WING) เชฟได้แรงบันดาลใจมาจาก “ไก่ทอดเกาหลี” แหม เห็นวัยรุ่นนิยมเข้าหน่อยก็คิดสูตรเอาใจวัยรุ่นขึ้นมาทันที โดยนำปีกไก่มาคลุกเคล้าน้ำปลาหวานสูตรพิเศษของ Monkey Pod ทอดให้เหลืองกรอบ แล้วรับประทานคู่กับ มะม่วงพิวเร่ ( Mango puree ) โอ้โห พอกัดไปคำแรก เห็นภาพมะม่วงน้ำปลาหวานผุดขึ้นในสมองทันที (ฮา) จะว่าไปแล้ว จานนี้เหมาะกับเบียร์สดเหมือนกันนะเนี้ย (ราคา 149 บาท)
อีกจานเพื่อนร่วมโต๊ะต่างชื่นชอบ นั่นก็คือ ไก่คลองไผ่อบพริกเหลือง KLONG PHAI CHILLI CHICKEN เชฟนำเนื้อไก่อบที่ชุ่มฉ่ำกำลังดี ผ่านการหมักด้วยน้ำหมักพริกเหลือง และสมุนไพรไทย อาทิเช่น ตะไคร้ น้ำมะขาม รากผักชี กระเทียม ให้รสสไลต์ไก่พิริพิริ แล้วเสิร์ฟคู่กันกับซอส Chimichurri มีหอมแขกดอง บีทรูทที่หวานหอม และน้ำจิ้มสูตรพิเศษของ Monkey Pod จานนี้เป็นไก่ครึ่งตัว (ราคา 389 บาท)
จบสวยๆด้วยขนมหวานนามว่า OOPS…. WE COPIED 3 –STAR CHEF เป็น ไอศครีมนม ซอสส้มซ่า ราดด้วยซอสโหระพา (Milk Ice Cream, Som Saa (Thai Dry Orange), Basil) รสชาติอมเปรี้ยวอมหวาน กินแล้วสดชื่นรู้สึกผ่อนคลายด้วยน้ำมันหอมละเหยจากใบโหระพา ไม่ต้องเยอะแยะมากมายแต่ได้ครบรสความอร่อย (ราคา 119 บาท) เรื่องราวของเมนูนี้เกิดจากเชฟมิชลิน อิตาลี เห็นเด็กฝึกงานทำ “เลมอนทาร์ต” หล่นแตกที่พื้น เขามองว่าเป็นภาพที่สวยงาม เขาจึงเสิร์ฟ “เลมอนทาร์ต”โดยใส่จานแล้วทุบให้แตก “เชฟดู่” นำมาปรับใช้ โดยเสิร์ฟแบบมีความ “แตก” เสมือนขนมหวานผสานศิลปะ โดยนำไอศกรีมนมสดใส่ไว้ตรงกลาง มีซอสส้มซ่า สปันโหรพา เมอร์แรงมะกรูด ฯลฯ แล้วขูดผิวส้มซ่าลงไปเล็กน้อยพอได้กลิ่นอโรมา จานนี้หมูหวานชอบมากเช่นกัน
เครื่องดื่มมีให้เลือกหลากหลาย อาทิเช่น BLOODY MARY MOCKTAIL, TROPICAL SPICE, Detox Detox, Monkey Planet, Monkey Lemonade, Monkey Spritzer เป็นต้น
เขียนมาจนถึงตอนท้าย หวนกับไปคิดถึง “LAO DOG” ที่จัดว่าเป็น “เมนูเด็ด” ชวนฝันหา คงต้องแวะเวียนไปดื่มด่ำบรรยากาศอาหารถูกปาก บรรยากาศถูกใจ ที่ ‘Monkey Pod’ ทาปาสบาร์เรสเตอรอง แอนด์ คาเฟ่ อยู่ในซอยสุขุมวิท 13 ซะแล้ว
“Monkey Pod” อยู่ในซอยสุขุมวิท 13 เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.30 – 23.00 น. (Last Order 21.30 น.)โทร. 02-115-9830 หรือ https://www.facebook.com/Monkeypodbkk หรือ Line Official account (@monkey_pod)
บางมุมที่ดูคลาสสิคแบบไทย
