AAVโกยเงินขายตั๋วบุฟเฟ่ต์-รอลุ้นเราเที่ยวด้วยกันเฟส3

AAVโกยเงินขายตั๋วบุฟเฟ่ต์-รอลุ้นเราเที่ยวด้วยกันเฟส3

การระบาดของโควิด-19 ถือเป็นวิกฤตที่สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทุกธุรกิจได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็นรายเล็กหรือรายใหญ่ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวดูจะบาดเจ็บสาหัสที่สุด ถ้าเปรียบเป็นคนป่วยตอนนี้ก็อาการโคม่า

หลังต้องมีการใช้ยาแรงปิดประเทศเพื่อยับยั้งโรคระบาดมาหลายเดือน ขณะที่ตลาดในประเทศซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัด ท่ามกลางกำลังซื้อที่อ่อนแอ และความกังวลของผู้คน เมื่อไม่มีลูกค้าไม่มีนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการก็ต้องดิ้นกันสุดชีวิต งัดสารพัดวิธีออกมาใช้เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ

หนึ่งในกลยุทธ์ที่เรียกเสียงฮือฮาในช่วงนี้เห็นจะเป็นการปล่อยหมัดเด็ดของ “สายการบินไทยแอร์เอเชีย” ของ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV เจ้าตลาดโลว์คอสต์แอร์ไลน์เมืองไทย ด้วยการออกโปรโมชั่น “ตั๋วบินรัวๆ ทั่วไทย” หรือ “ตั๋วบุฟเฟ่ต์” ในราคา 3,599 บาท บินได้ไม่จำกัด ครอบคลุมทุกเส้นทางบินในประเทศ นาน 9 เดือน เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย.-16 ธ.ค. 2564

ปรากฏว่ากระแสตอบรับถล่มทลาย มียอดจองครบ 80,000 สิทธิ ในเวลาเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น จากที่ตั้งใจว่าจะเปิดขายทั้งหมด 6 วัน ซึ่งใครที่กดจองทัน สามารถเริ่มสำรองที่นั่งได้เลยตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค. นี้เป็นต้นไป

จากแคมเปญนี้ไทยแอร์เอเชียจะมีกระแสเงินสดเข้ามาทันทีเกือบ 300 ล้านบาท ช่วยเติมสภาพคล่องได้ในระดับหนึ่ง ระหว่างที่การช่วยเหลือจากภาครัฐยังมาไม่ถึง ซอฟท์โลนที่กลุ่มสายการบินขอไปข้ามปี ยังไม่รู้จะออกหัวออกก้อย จึงต้องช่วยเหลือตัวเองกันไปก่อน

เห็นผลตอบรับดีขนาดนี้ สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยพร้อมแพ็คกระเป๋าออกเดินทางท่องเที่ยวแล้ว หลังจากที่อัดอั้นกันมานาน ในเมื่อต่างประเทศยังไปไม่ได้ก็เที่ยวในประเทศ “ไทยเที่ยวไทย” กันไปก่อน เพราะเวลานี้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศลดลงต่อเนื่อง

ที่สำคัญ “วัคซีน” ถูกอิมพอร์ตเข้ามาแล้ว และเริ่มมีการฉีดกันในหลายพื้นที่ เปรียบเสมือนแสงสว่างปลายอุโมงค์ที่ทุกคนฝากความหวังไว้ ส่งผลให้บรรยากาศช่วงนี้ผ่อนคลายขึ้น ประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตกันได้ตามปกติ

สะท้อนได้จากช่วงวันหยุดยาวมาฆบูชาที่ผ่านมา การเดินทางท่องเที่ยวทั่วประเทศคึกคัก ยิ่งเดือนหน้าบรรยากาศจะยิ่งคึกคักขึ้น เพราะนายกฯ ออกมาบอกแล้วว่าเตรียมที่จะปลดล็อกมาตรการคุมเข้มเพิ่มเติมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แน่นอนว่าจะยิ่งดึดดูดให้คนไทยออกมาท่องเที่ยวมากขึ้น ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยว

นอกจากนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมเสนอมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวชุดใหม่ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3 เพิ่มอีก 2 ล้านสิทธิ์ และขยายเวลาใช้สิทธิ์ไปถึงสิ้นเดือน ก.ค. นี้ หลังที่ผ่านมากระแสตอบรับดีมาก

ส่วนตลาดต่างชาติเริ่มมีความหวังเช่นกัน เพราะตอนนี้หลายประเทศรวมทั้งไทยกำลังผลักดัน “วัคซีนพาสปอร์ต” ที่จะการันตีว่าเราได้รับวัคซีนครบแล้ว สามารถที่จะเดินทางไปต่างประเทศได้ ขณะที่ ศบค. อยู่ระหว่างพิจารณาลดจำนวนวันกักตัวสำหรับผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย

ดูจากหลากหลายปัจจัยแล้ว ล้วนแต่เป็นข่าวดีสำหรับภาคการท่องเที่ยว อย่างไทยแอร์เอเชียเองตั้งเป้าที่จะกลับมาเปิดให้บริการครบทุกเส้นทางบินในประเทศในเดือน เม.ย. นี้ จากปัจจุบันที่เปิดให้บริการอยู่ประมาณ 80% ของเที่ยวบินทั้งหมด และคาดว่ารัฐบาลจะเริ่มเปิดประเทศในช่วงไตรมาส 4 นี้ หนุนให้ผลประกอบการของบริษัทกลับมาถึงจุดคุ้มทุนในช่วงเวลาดังกล่าวพอดี

ด้านบล.เคทีบีเอสที ระบุ มีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานของ AAV ที่จะกลับมาฟื้นตัวได้ดี ขณะที่โปรโมชั่นตั๋วบุฟเฟ่ต์ที่ขายหมดอย่างเร็วถือเป็น sentiment เชิงบวก ดีกว่าปีก่อนที่ขายได้ 8.9 หมื่นสิทธิ์ จากที่เปิดขายทั้งหมด 1 แสนสิทธิ์ แสดงให้เห็นถึงความต้องการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศที่สูงขึ้น คาดว่าผลการดำเนินงานจะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป

และหากสามารถกลับมาเปิดเที่ยวบินระหว่างประเทศได้ จะเริ่มเข้าสู่จุดคุ้มทุนอีกครั้ง โดยฝ่ายวิจัยประเมินว่าผลประกอบการปี 2564 จะขาดทุนสุทธิลดลงเหลือ 2.5 พันล้านบาท และจะพลิกกลับมามีกำไรราว 300 ล้านบาท ในปี 2564