'ปชป.' เกาะติดศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติ 11 มี.ค. ชี้ขาดอำนาจรัฐสภาแก้ รธน.ได้หรือไม่

'ปชป.' เกาะติดศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติ 11 มี.ค. ชี้ขาดอำนาจรัฐสภาแก้ รธน.ได้หรือไม่

"ประชาธิปัตย์" ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติ 11 มี.ค. ตัดสินอำนาจรัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญ จับตาวาระ 3 แก้เดินหน้าได้หรือไม่

วันที่ 4 มี.. นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการกฎหมายพรรค กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญกำหนดนัดปรึกษาหารือ และลงมติวันที่ 11 มี.. เวลา 09.30 .ในคำร้องที่มีการส่งให้ตีความวินิจฉัยความชอบของการญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้กังวลใจต่อเรื่องดังกล่าว เพราะหลักการของพรรคชัดเจนว่าการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จะทำให้เป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น ซึ่งพรรคไม่ได้มองว่าต้องการทำเพื่อประโยชน์ของฝ่ายการเมืองแต่มองไปถึงเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆ ของประชาชนและโครงสร้างของระบบการเข้าสู่อำนาจระบบการเลือกตั้งระบบการตรวจสอบทุจริต

"สิ่งต่างๆ เหล่านี้ควรจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมให้มีความเป็นประชาธิปไตย เพราะเมื่อมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยประชาชนและประเทศชาติ จะได้ประโยชน์กับสิ่งต่างๆ เหล่านี้"นายราเมศ กล่าว

นายราเมศ กล่าวต่อว่า สำหรับกระบวนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญพรรคได้แสดงความจริงใจมาตลอด แต่เมื่อมีสมาชิกรัฐสภายื่นเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาปรึกษาหารือและลงมติในวันที่ 11 มี..เวลา 09.30 . ซึ่งคงคาดคะเนไปก่อนไม่ได้ต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะวินิจฉัยให้เดินหน้าแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญต่อไปได้หรือไม่ แต่ผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมาเป็นเช่นไร พรรคพร้อมน้อมรับในคำวินิจฉัยเพื่อนำมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ

นายราเมศ กล่าวด้วยว่า ส่วนการพิจารณาในวาระที่ 3 ของรัฐสภาจะมีความชัดเจน เมื่อศาลนัดอ่านคำวินิจฉัยวันที่ 11 มี.. ดังนั้นต้องทราบผลคำวินิจฉัยก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ที่ฝ่ายค้านได้ยื่นความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ประกอบในการพิจารณาวินิจฉัย โดยศาลรัฐธรรมนูญสั่งรับไว้ประกอบการพิจารณาในสำนวน เรื่องนี้เป็นไปตามหลักการที่ฝ่ายค้านสามารถทำได้ เพราะศาลรัฐธรรมนูญใช้ระบบการไต่สวนข้อมูลข้อเท็จจริงที่มีการส่งเข้าสู่สำนวน และศาลสามารถใช้มาประกอบพิจารณาในการวินิจฉัยได้เป็นไปตามหลักการวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ