คลังเล็งเพิ่มเงินสมทบจูงใจออมผ่านกอช.

คลังเล็งเพิ่มเงินสมทบจูงใจออมผ่านกอช.

คลังเล็งเพิ่มมาตรการจูงใจการออมผ่านกอช.เพื่อรองรับสังคมสูงวัยอย่างเต็มรูปแบบในปี 2574 โดยจะพิจารณาขยายอายุสมาชิกเป็น 65 ปี จาก 60 ปี และเพิ่มเงินสมทบของภาครัฐสูงสุดจาก 1.2 พันบาท เป็น 1.8 พันบาทต่อปี

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยในงานสัมมนาโครงการส่งเสริมวินัยการออมที่กองทุนการออมแห่งชาติ(กอช.)ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจัดขึ้น เมื่อวานนี้ (3มี.ค.)ว่า กระทรวงการคลัง เตรียมพิจารณาเพิ่มมาตรการจูงใจการออมผ่านกอช.เพื่อรองรับสังคมสูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ (Super Aging) ของไทยในปี 2574

“กระทรวงการคลัง อยู่ในระหว่างการพิจารณามาตรการจูงใจ เพื่อเพิ่มจำนวนสมาชิก กอช.ให้มากขึ้น ทั้งในด้านการเพิ่มเงินสมทบของภาครัฐใน กอช.ให้สูงขึ้น และขยายอายุสมาชิกสูงสุดเป็น 65 ปี จากปัจจุบันกฎหมายกำหนดที่ 60 ปี”

ทั้งนี้ ไทยได้ก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุตั้งแต่ปี 2548 และเป็นสังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์ หรือมีประชากรที่อยู่ในวัย 60 ปีขึ้นไป เป็นสัดส่วน 20%ของประชากรทั้งประเทศในปีนี้ และภายในปี 2574 สังคมไทยจะก้าวเข้าสู่การเป็นSuper Agingโดยมีคนอายุ 65 ปีขึ้นไปมากถึง 28%ของประชากรทั้งประเทศ

ดังนั้น การสร้างเงินออมหลังเกษียณ จึงมีความสำคัญมากสำหรับประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยได้มียุทธศาสตร์ชาติ (ปี 2561-2580)ยุทธศาสตร์ที่ 4 ที่ต้องการสร้างโอกาสและความเสมอภาค รองรับสังคมสูงอายุอย่างมีคุณภาพ โดยวางแผนในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ และสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะการส่งเสริมการออม

ปัจจุบัน แรงงานทั้งประเทศ 37 ล้านคน มีเพียงครึ่งเดียวหรือประมาณ 17 ล้านคนที่มีระบบการออมเพื่อการเกษียณภาคบังคม คือ กองทุนประกันสังคม และ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และระบบการออมภาคสมัครใจที่กฎหมายให้การสนับสนุน คือ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

ขณะที่ อีก 20 ล้านคนซึ่งเป็นแรงงานอิสระ ที่ไม่อยู่ในระบบการออมภาคบังคับตามกฎหมาย โดยในจำนวนนี้สมัครเข้าไปสมาชิกกองทุนประกันสังคมภาคสมัครใจมาตรา 40 จำนวน 3 ล้านคน และเป็นสมาชิก กอช.อีก 2.4 ล้านคน เหลืออีก 14 ล้านคนที่ยังไม่มีระบบการออมเพื่อการเกษียณ

น.ส.จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกอช.กล่าวว่า กอช.ได้เสนอกระทรวงการคลัง ในการขยายอายุสมาชิก เป็น 65 ปี จากปัจจุบันกฎหมายกำหนดไว้ไม่เกิน 60 ปี และขอให้กระทรวงการคลัง พิจารณาเพิ่มเงินสมทบของรัฐบาล จากปัจจุบันสูงสุดไม่เกิน 1,200 บาทต่อปี เป็น 1,800 บาทต่อปี

ปัจจุบันรัฐบาลใส่เงินสมทบให้กับสมาชิก กอช. ตามช่วงอายุ กล่าวคือ ช่วงอายุ 15-30ปี รัฐสมทบให้ 50%ของเงินออมสะสม สูงสุดไม่เกิน 600 บาทต่อปี, ช่วงอายุมากกว่า 30 ปี-50ปี รัฐสมทบให้ 80% ของเงินออมสะสม สูงสุดไม่เกิน 960 บาทต่อปี และช่วงอายุมากกว่า 50 ปี-60ปี รัฐสมทบให้ 100%ของเงินออมสะสม สูงสุดไม่เกิน 1,200บาทต่อปี

โดยหากมีการแก้ไขกฎหมายเงินสมทบสูงสุดของรัฐบาลเป็น 1,800 บาทต่อปี เงินที่สมาชิกจะได้รับในแต่ละช่วงอายุจะสูงขึ้น โดย ที่เปอร์เซ็นต์ที่รัฐสมทบต่อเงินออมสะสมยังคงเดิม

ปัจจุบัน กอช.มีเงินกองทุนรวมสะสม 8 พันล้านบาท โดยเงินส่วนใหญ่ลงทุนในทรัพย์สินที่มั่นคงสูง ส่วนน้อยลงทุนในหุ้น ในปีที่แล้วผลตอบแทนรวมของกองทุนอยู่ที่ 2.75%