เน้นหุ้นรายตัว

เน้นหุ้นรายตัว

ความกังวล Bond yield สหรัฐที่ทรงตัวระดับสูง, ราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงจะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง 

ตลาดหุ้นวานนี้

SET ปิดที่ 1,500.92 จุด เพิ่มขึ้น 4 จุด ได้ Sentiment บวกจากตลาดหุ้นทั่วโลกกลับมาฟื้นตัวรับข่าว สภาผู้แทนฯ สหรัฐผ่านร่างกฏหมายกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านเหรียญ ขณะเดียวกัน Us bond yield 10 ปี เริ่มพักตัวล่าสุดลดลงเป็น 1.44%

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

คาด SET  แกว่งตัว 1,490 - 1,510 จุด แม้ว่าภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจากมาตรการเยียวยา Covid-19 วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของสหรัฐ อย่างไรก็ตามความกังวลBond yield สหรัฐที่ทรงตัวระดับสูง , ราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงจากคาดการณ์กลุ่มโอเปคพลัสจะเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 4 มี.ค. จะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • AOT MINT CENTEL CPN CRC MAJOR ได้อานิสงส์วัคซีน Covid-19 
  • HANA KCE TU CPF อานิสงส์เงินบาทที่อ่อนค่าลง
  • หุ้นกระแสกัญชง CBG ICHI SAPPE RBF DOD PTG

หุ้นแนะนำวันนี้

  • PLANB (ปิด 7.05 ซื้อ/เป้า 7.8) Analyst meeting วานนี้โทนเป็นบวกคาดรายได้ปีนี้จะเติบโต 34-45%yoy จากกิจกรรมโฆษณาผ่าน OOH เพิ่มขึ้น Utilization เพิ่มขึ้นหนุนทั้งรายได้และ GPM นอกจากนี้ยังมีรายได้เพิ่มขึ้นจากสมาคมฟุตบอล รวมถึงการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก MACRO และ 7-11 มาเต็มปี
  • SAWAD (ปิด 67 ซื้อ/เป้าสูงสุด IAA Consensus 78 บาท) กำไรสุทธิ 4Q20 ดีกว่าที่ตลาดคาด ปีนี้เริ่มรับรู้กำไรจากการจับมือกับ ธ.ออมสิน หนุนฐานลูกค้าเพิ่มขณะที่ต้นทุนการเงินลดลง วางแผนนำบริษัทลูก SCAP เข้าจดทะเบียนฯ (IPO) ภายใน 2-3 ปี โดยตั้ง คุณ วิชิต พยุหนาวีชัย ผู้บริหารมือดีเป็นแม่ทัพ 

บทวิเคราะห์วันนี้

AH, PLANB, ROJNA, TRUE, TVO, WHA, WHAUP

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+) ดาวโจนส์ฟื้นแรงรับข่าววัคซีนและมาตรการกระตุ้น ศก.คืบหน้า: ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์กลับมาบวกแรงกว่า 603 จุด (+1.95%) โดยมีปัจจัยหนุนคือ 1)US Bond yield เริ่มชะลอตัวจากที่เร่งขึ้นอย่างรวดเร็วในสัปดาห์ที่ผ่านมา, 2)ศูนย์ควบคุมโรคฯ ของสหรัฐ (CDC) รับรองวัคซีนต้านไวรัส Covid-19 ของ จอห์นสัน & จอห์นสัน(J&J) หลังจากที่ อย.สหรัฐ (FDA) อนุมัติแล้ว และ 3)ตอบรับข่าวสภาผู้แทนฯผ่านร่างมาตรการกระตุ้น ศก. 1.9 ล้านล้านดอลลาร์
  • (-) น้ำมันดิบลดลงต่อเป็นวันที่ 2 กังวลดีมานด์จีนชะลอตัว: ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 86 เซนต์ (-1.4%) ปิดที่ระดับ 60.64$/bbl เนื่องจาก 1) กังวลดีมานด์จีนชะลอตัวหลังจีนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ก.พ. ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน และ 2) นักลงทุนลดความเสี่ยงก่อน OPEC+ meeting 4 มี.ค. ซึ่งมีโอกาสสูงที่ซาอุฯ อาจจะยุติการปรับลดกำลังการผลิต 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
  • (-) สรุปงบบริษัทจดทะเบียนปี 20 กำไรสุทธิหดตัว 51%yoy: สรุปผลกำไรบริษัทจดทะเบียน 4Q20 และปี 2020 (95%ของจำนวนบริษัท และ 93%ของ Market cap รวม) มีกำไรสุทธิ 9.6 หมื่นล้านบาทลดลง 38%qoq และ 58%yoy ส่งผลให้ทั้งปีมีกำไรสุทธิรวม 4.6 แสนล้านบาทลดลง 51%yoy อย่างไรก็ตามคาดปีนี้กำไรบริษัทจดทะเบียนจะกลับมาฟื้นตัวได้ประมาณ 30-40%yoy