TKN กำไรปี 63 วูบเหลือ 242 ล้านบาท ยอดขายในปท.-ตปท.ลด จากโควิด-19

TKN กำไรปี 63 วูบเหลือ 242 ล้านบาท ยอดขายในปท.-ตปท.ลด จากโควิด-19

เถ้าแก่น้อย แจ้งกำไรปี 63 กำไรลดเหลือ 242 ล้านบาท ลดลง 6.1% ของรายได้ยอดขาย และลดลง 0.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังได้รับผลกระทบโควิด-19 ส่งผลยอดขายในประเทศ-ต่างประเทศลดวูบ

      บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มารเก็ตติ่ง จำกัด(มหาชน)TKN แจ้งกำไรปี 2563 อยู่ที่ 242.6 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6.1 ของรายได้จากการขาย ลดลงร้อยละ 0.9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ดังนั้น บริษัทได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลให้กำไรขาดทุนประจำปีนี้ ต่ำกว่าประมาณการณ์ 200 ล้านบาท

     โดยแบ่งเป็นงบการเงินเฉพาะกิจการลดลงกว่า 150 ล้านบาทและงบการเงินของเถ้าแก่น้อยแลนด์ลดลงกว่า 50 ล้านบาท

    รายได้จากการขาย บริษัทฯ มีรายได้จากการขายไตรมาสที่ 4 จำนวน 882.9 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 37.7 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่ผ่านมา (ลดลงร้อยละ 9.8 จากไตรมาส 3/2563) และมีรายได้จากการขายปี2563 รวมทั้งสิ้น 3,983.1 ล้านบาท ลดลง ร้อยละ 24.4 จากปีที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัส Covid-19

     โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยว ซึ่งยังเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 4 ของรายได้จากการขายในประเทศ และมาตรการปิดห้างสรรพสินค้าหรือห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานตามเวลาที่กำหนดในหลายประเทศ อาทิ ไทย อินโดนีเซีย จีน และ สหรัฐอเมริกา ตลาดในประเทศ มีรายได้จากการขายไตรมาสที่ 4 จํานวน 314.3 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 39.2 จากไตรมาสเดียวกับปีที่ผ่านมา และมีรายได้จากการขายปี2563 รวมทั้งสิ้น 1,275.6 ล้านบาท ลดลงร้อย 39.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน

    ทั้งนี้ ยังคงส่วนแบ่งการตลาด ขนมขบเคี้ยวประเภทสาหร่าย มากกว่าร้อยละ 64 และมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ผ่านกิจกรรมการตลาดออนไลน์และการออกสินคา้ใหม่รวมถึงขยาย สายผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องดื่มเพื่อทดแทนยอดขายกลุ่มนักท่องเที่ยว

     โดยได้เริ่มนำสินค้านมพลาสเจอไรส์รสชานม “จัสท์ดริ้งค์” เข้าวางขายในร้านสะดวกซื้อกว่า 6,000 สาขา ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคม โดยวางแผนเพิ่มการกระจายสินค้าและจำหน่ายสินค้าต่อเนื่องตลาอดทั้งปี 2564
     ขณะที่ตลาดต่างประเทศ มีรายได้จากการขายไตรมาสที่ 4 จํานวน 568.6 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 36.8 จากไตรมาส เดียวกันปีผ่านมา และมีรายได้จากการขายปี 2563 รวมทั้งสิ้น 2,707.6 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 14.0 จากช่วงเดียวกนั ปีก่อน
     โดยตลาดจีน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 40% ของยอดขายรวม ลดลงร้อยละ 20.6 เมื่อเทียกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้สถานการณ์โควิด-19 ในช่วงปลายปี ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบจากสภาวะขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และการปรับขึ้นราคาค่าขนส่ง ทางเรือระหว่างประเทศเท่าตัว

     ซึ่งคาดว่า สถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายช่วงต้น ปี2564 รวมทั้งการรับรู้ค่าใช้จ่ายแรกเข้าสินค้า (Listing Fee) 50 ล้านบาทในปีแรก ของการขายร่วมกับผู้แทนจำหน่ายรายใหม่