‘เงินบาท’วันนี้เปิดตลาด‘ทรงตัว’ที่ 30.22บาทต่อดอลลาร์

ตลาดการเงินฟื้นรวดเร็ว ส่วนเงินบาทฟื้นตัวขึ้นตามทิศทางของสกุลเงินเอเชีย โดยมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการที่นักลงทุนต่างชาติกลับเข้าซื้อหุ้นไทยในช่วงนี้

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน EASY INVEST บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ไทยพาณิชย์(SCBS) เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ 30.22 บาทต่อดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนประเมินกรอบเงินบาทระหว่างวัน 30.10-30.30 บาทต่อดอลลาร์

โดยในช่วงคืนที่ผ่านมา ตลาดการเงินฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว นำโดยดัชนี S&P 500 ของสหรัฐที่ปรับตัวบวกได้ถึง 2.38% จากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นขนาดเล็ก ส่วนดัชนี STOXX 600 ของยุโรปปรับตัวขึ้น 1.84% โดยมีหุ้นในอิตาลี และสเปนนำตลาด

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจก็สนับสนุนการฟื้นตัว ล่าสุดรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตในสหรัฐ (U.S. Feb. ISM Manufacturing) ขยับขึ้นแต่ระดับ 60.8จุด จากเดือนก่อนที่ 58.7จุด ถือเป็นการฟื้นตัวที่รวดเร็วที่สุดในรอบสามปีโดยมีราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจดังกล่าวส่งผลให้บอนด์ยีลด์สหรัฐอายุสามสิบปีขยับตัวขึ้น 2bps แตะระดับ 2.23% สะท้อนมุมมองของตลาดว่าเศรษฐกิจมีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง แม้ระยะสั้นบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุสิบปีจะปรับตัวลง 4bps มาที่1.44% จากการปรับพอร์ตของนักลงทุนทั่วโลกหลังหุ้นปรับตัวลงแรงช่วงก่อนหน้า เช่นเดียวกับตลาดเงินที่ไม่ได้ชัดเจนว่าเงินดออลาร์อ่อนค่า แม้จะมีแรงส่งจากสกุลเงินผันผวนสูงดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) ที่ปรับตัวบวกถึง 0.8% แต่ก็มีสกุลเงินปลอดภัยอย่างเยนญี่ปุ่น (JPY) ปรับตัวอ่อนค่า 0.3% ทำให้ดัชนีดอลลาร์โดยรวมปรับตัวลงเพียง 0.1%

ส่วนเงินบาท ฟื้นตัวขึ้นตามทิศทางของสกุลเงินเอเชีย โดยมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการที่นักลงทุนต่างชาติกลับเข้าซื้อหุ้นไทยในช่วงนี้ มองว่าตลาดยังคงหวังว่าสกุลเงินเอเชียมีโอกาสฟื้นตัวได้ต่อเนื่องถ้าภาคอุตสาหกรรมทั่วโลกส่งสัญญาณเร่งตัว

อย่างไรก็ดี นักลงทุนส่วนใหญ่ยังอยู่ในโหมดระมัดระวังตัว เนื่องจากยีลด์สหรัฐซึ่งเป็นต้นทุนของการลงทุน ขยับขึ้นจากต้นปีในระยะต่อไปจึงต้องรอให้มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่เข้ามาในตลาดเช่นการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากนี้หรือแนวโน้มการเมืองระหว่างประเทศของประเทศใหญ่ต่าง ๆ จึงจะเห็นทิศทางที่ชัดเจนจากการ

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงินธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทประเมินว่า ค่าเงินบาทสามารถแข็งค่าขึ้นได้ ในช่วงที่ตลาดกลับมาเปิดรับความเสี่ยงและลดการเทขายสินทรัพย์ในฝั่ง EM แต่ ยังคงต้องระวังความผันผวนที่อาจกลับมา หากยีลด์ 10ปีสหรัฐฯ ยังพุ่งขึ้นต่อได้ ตามความหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจที่อาจได้แรงหนุนจากการจ้างงานที่ดีกว่าคาดและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ สร้างแรงกดดันต่อตลาดการเงินอีกครั้ง ทำให้ สกุลเงิน EM อาจผันผวนและอ่อนค่าลงได้ ตามแรงเทขายสินทรัพย์ EM (ฟันด์โฟลว์ต่างชาติไหลออก)