กลยุทธ์การลงทุน (1 มี.ค.64)

กลยุทธ์การลงทุน (1 มี.ค.64)

พอร์ตหุ้นแนะนำ มี.ค. เน้นหุ้นเชื่อมโยงวัฏจักรเศรษฐกิจฟื้นตัว

พอร์ตหุ้นเดือนกุมภาพันธ์ขยับขึ้นมา 6.8% ในขณะที่ดัชนี SET ขึ้นแค่ 2.9%

พอร์ตหุ้นเดือนกุมภาพันธ์ของเราขยับขึ้นมา 6.8% ซึ่ง outperform ดัชนี SET ที่ขึ้นมาแค่ 2.9% โดยหุ้นเด่นในกลุ่ม mid-cap สองตัวที่อยู่ในเครือเดียวกัน คือ JMART* และ JMT* วิ่งขึ้นมาแรงถึง 21.1% และ11.5% ตามลำดับ สะท้อนถึงแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่ง และโอกาสที่จะผนึก synergy กับธนาคาร
เกาหลีแห่งหนึ่ง ส่วนหุ้นในธีมการกลับมาเปิดเศรษฐกิจ อย่างเช่น CPN* และ SPA ก็ outperform ดัชนี SET เช่นกัน แต่ในอีกด้านหนึ่ง หุ้น SCC* กลับน่าผิดหวังโดยขยับลดลง 2.1% เนื่องจากต้นทุน naphtha พุ่งขึ้นตามตลาดน้ำมันดิบ ทั้งนี้ พอร์ตหุ้นของเราใน 2M64 ขยับขึ้นมาแล้ว 11.4% ดีกว่าดัชนี
SET ที่ขยับขึ้นมาแค่ 4.3%

มุมมองตลาดเดือนมีนาคม: น่าจะขึ้นได้บ้าง แต่ upside จำกัดจากความกังวลที่อัตราผลตอบแทน UST พุ่งสูงขึ้น

สำหรับแนวโน้มเดือนมีนาคม เรามองว่าดัชนี SET จะขยับขึ้นแบบ sideways up และจะ outperform ตลาดหุ้นโลก เมื่อพิจารณาแบบ Top-down เราพบว่ามีสองเหตุผลที่ทำให้เรายังคงมองบวก แม้ว่าสภาวะความเสี่ยงของโลกจะยังคงมาๆ หาย ๆ ได้แก่ i) หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีคิดเป็นสัดส่วน market cap ที่ต่ำในตลาดหุ้นไทย โดยหุ้นกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะย่อลงจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรขยับสูงขึ้น ซึ่งจะกระทบกับหุ้นกลุ่มที่มีราคาแพง ii) ความคาดหวังด้านบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และ yield curve ที่ชันขึ้นส่งผลดีต่อหุ้นใหญ่สองกลุ่ม ได้แก่ พลังงาน และธนาคาร อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรเตรียมตัวรับมือกับสภาวะตลาดที่น่าจะยังคงผันผวนต่อเนื่อง จากการที่ภาวะตลาดหุ้นโลกยังแกว่งตามอัตราผลตอบแทน UST ที่วิ่งขึ้น และประเด็นที่มีการกลับมาพูดถึงในตลาดว่าจะเลือกลงทุนใน‘หุ้นหรือพันธบัตร’ ดี หลังจากที่เมื่อวันศุกร์ที่แล้วอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นมาจนเท่ากับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลหุ้นใน S&P500 สำหรับปัจจัยในประเทศ เรามองว่าการกลับมาเปิดเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง บวกกับมาตรการกระตุ้นการบริโภคสองสามโครงการซึ่งจะทำให้เกิดแรงซื้อสินค้าอย่างเต็มที่ในเดือนมีนาคมก็น่าจะทำให้โมเมนตั้มของข้อมูลเศรษฐกิจเป็นบวกต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับฐานที่ต่ำมากในเดือนมีนาคม 2563 เมื่อ COVID-19 ระบาดในประเทศไทยรอบแรก

หุ้นเด่นเดือนมีนาคม: เน้นหุ้นในธีมการฟื้นตัวตามวัฏจักรเศรษฐกิจโลก, ธนาคาร, และการกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง

เนื่องจากเรามองว่าประเทศไทยจะเอาตัวรอดได้จากภาวะความผันผวนของตลาดการเงินโลก และน่าจะ outperform ตลาดหุ้นอื่น ๆ ในเอเชีย ดังนั้น เราจึงยังคงยึดตามการวิเคราะห์สหสัมพันธ์กับอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ซึ่งเน้นไปที่หุ้น big-cap โดยหุ้นเด่นในเดือนมีนาคมของเราจะเน้นไปที่หุ้นในธีมการฟื้นตัวตามวัฏจักรเศรษฐกิจโลก และ reflation อย่างเช่น ESSO*, IVL*, PTTGC* รวมถึงหุ้นในธีมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมหภาคของไทย และอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรที่สูงขึ้นอย่างเช่น KBANK* และหุ้นในธีมการกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง ทั้งนี้ เนื่องจากหุ้นกลุ่มโรงแรมวิ่งขึ้นมาแรงจนเข้าใกล้ราคาเป้าหมายของเราแล้ว เราจึงเลือกหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว และหุ้นผู้บริโภคที่ราคายังตามหลังอยู่ อย่างเช่น AOT*, CPN* และ SPA