ตลาดระยะสั้นผันผวน ระวังกลุ่มที่ขึ้นมาก และเน้นเลือกหุ้นที่ยังขึ้นน้อยหรือมีธีมลงทุน

ตลาดระยะสั้นผันผวน ระวังกลุ่มที่ขึ้นมาก และเน้นเลือกหุ้นที่ยังขึ้นน้อยหรือมีธีมลงทุน

ผันผวนจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร

ตลาดหุ้นโลกปรับลดลงในช่วงวันศุกร์เนื่องจากการพุ่งขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ระหว่างวันปรับเพิ่มขึ้นไปสูงสุดถึง 1.6% สาเหตุที่ผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้นเนื่องจาก 1) ผลการประมูลพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 7 ปีและ 5ปี ในช่วงคืนวันศุกร์ที่ความต้องการ (bid to cover ratio) อยู่ที่ราว 2-2.2 เท่า ซึ่งเป็นระดับอ่อนแอ และ 2) สภาผู้แทนฯสหรัฐได้อนุมัติมาตรการเยียวยาผลกระทบจากโรคโควิด-19 มูลค่า 1.9 ล้านล้านเหรียญฯ และอยู่ระหว่างส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้กับวุฒิสภาพิจารณาต่อไป เพื่อให้ทันก่อนที่โครงการช่วยเหลือผู้ว่างงานในสหรัฐจะหมดอายุลงในวันที่ 14 มี.ค.นี้ อย่างไรก็ตามการที่เศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะฟื้นตัวจำต้องได้รับการประคับประคอง ทำให้ตลาดคาดจะเห็นมาตรการควบคุมการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร หรือการเพิ่มวงเงินซื้อคืนพันธบัตรของธนาคารกลางในหลายประเทศ ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรอ่อนตัวลงกลับมายังระดับ 1.4% ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียฟื้นตัวในเช้าวันนี้

ตลาดเลือกเก็งกำไรรายตัว โดยธีมที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) กลุ่มท่องเที่ยว-ธนาคาร จากการผ่อนคลายเศรษฐกิจ และมาตรการออก REIT buy back อาจส่งผลบวกต่อการบริหารสภาพคล่องและการฟื้นตัวของผลการดำเนินงาน ซึ่งในกลุ่มนี้ เราชอบธนาคารที่ยัง Laggard อย่าง BBL, SCB, AWC, MINT, CPN, BDMS 2) กลุ่มเปิดเศรษฐกิจ บวกต่อ CPN, CRC, MAJOR, SPA, BDMS, M 3) ได้ประโยชน์จากเราชนะ TNP เนื่องจากเป็นร้านค้าธงฟ้า 4) ไฟฟ้าชุมชน ยื่นซอง 22 มี.ค.-2 เม.ย. เรามองบวกต่อพลังงานทดแทน โดยเฉพาะ ETC และ ACE

ภาพรวมกลยุทธ์ แม้อาจมีความผันผวนบ้างในระยะสั้น แต่ตามภาพระยะกลางยังคงมุมมองเชิงบวก ทั้งนี้ผลตอบแทนพันธบัตรที่อ่อนลงคาดส่งผลบวกต่อการฟื้นตัวของกลุ่ม yield play และหุ้นหรือกองทุนปันผล ขณะที่ระวังความผันผวนหุ้นพลังงานจากประชุมโอเปค 4 มี.ค.และ PMI จีนที่ชะลอตัวลง// หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร ADVANC*, BTSGIF*, BDMS*, BBL*

แนวรับ 1,450 และ 1,476/ แนวต้าน : 1,511-1,528 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

แบงก์ชาติระบุเศรษฐกิจไทยเดือน ม.ค. รับผลกระทบโควิดระลอกใหม่ชัดเจนขึ้น. คาดว่าจะเห็นนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาได้ในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ยังขึ้นอยู่กับประสิทธิผลของวัคซีนและการเปิดประเทศของแต่ละแห่งด้วย

เปิดช่องออกโทเคนกู้สภาพคล่องอสังหาฯ. มีช่องทางระดมทุนเพิ่มหลัง ก.ล.ต.คลายเกณฑ์ real estate-backed ICO เทียบเคียง REITs เพื่อให้คุ้มครองผู้ลงทุน เริ่ม 1 มี.ค.64

EKH อนุมัติขายหุ้นซื้อคืนในตลท. – โดยอนุมัติกำหนดระยะเวลาการจำหน่ายหุ้นของบริษัทที่ซื้อคืนภายใต้โครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน จำนวน 6 ล้านหุ้น คิดเป็น 1% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยให้ขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 12 มี.ค.2564 ถึง 1 ต.ค.2566

SSP - เพิ่มทุน 447.17 ล้านหุ้น (จาก 992 ล้านหุ้น) เพื่อ 1) รองรับการจ่ายหุ้นปันผล 92.20 ล้านหุ้น (10:1 XD 13 พ.ค.) 2) แจก SSP-W1 จำนวน 101.42 ล้านหุ้น ราคาใช้สิทธิ์ 12 บาท อายุ 8 เดือน (10:1 XW 14 มิ.ย.) และ 3) แจก SSP-W2 จำนวน 253.55 ล้านหุ้น ราคาใช้สิทธิ์ 12 บาท (10:1 XW 14 มิ.ย.) ราคาใช้สิทธิ์ 18-24 บาท อายุ 3 ปี 11 เดือน

CHAYOแจกใบสำคัญแสดงสิทธิ์ CHAYO-W2 จำนวน 125.44 – 246.96 ล้านหุ้น ในอัตราส่วน 6:1 ถึง 4:1 ที่ราคาใช้สิทธิ 10.25 บาทต่อหุ้น โดยมีอายุ 2 ปี

ACAP - ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 บริษัทฯได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ต่อศาลล้มละลายกลางและศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ไว้พิจารณาแล้ว และนัดไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ 8 มิ.ย.64

MINTเพิ่มทุนจดทะเบียน 341.26 ล้านหุ้น โดย 1) MINT-W8 อัตรา 29:1 ราคาใช้สิทธิ์ 28 บาท มีอายุ 2 ปี 2) MINT-W9 อัตรา 32:1 ราคาใช้สิทธิ์ 31 บาท มีอายุ 3 ปี

ประเด็นติดตาม: - 1 มี.ค. : US manufacturing PMI เดือน ก.พ. / 3 มี.ค. : Chinese composite PMI เดือน ก.พ. / 4 มี.ค. : US beige book, TH consumer confidence เดือน ก.พ., OPEC meeting, US initial jobless claims / 5 มี.ค. : US employment report

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)