บ้านมือสอง'ชานเมือง'ราคาร่วง

บ้านมือสอง'ชานเมือง'ราคาร่วง

เทอร์ร่า บีเคเค เผยราคาบ้านมือสองปี64ชานเมืองร่วงสวนทางทำเลใจกลางเมืองระดับราคา กว่า 20 ล้านบาทสะท้อนเจ้าของผ่อนชำระต่อไม่ไหวยอมลดราคา ชงรัฐออก นโยบายกระตุ้นการซื้อขายบ้านมือสอง ช่วยปลดภาระหนี้ภาคครัวเรือน หนุนให้ลดค่าธรรมเนียมการโอน และค่าจดจำนอง

นางสาวสุมิตรา วงภักดี กรรมการผู้จัดการบริษัท เทอร์ร่า มีเดีย แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัดหรือเทอร์ร่า บีเคเค กล่าวว่าแนวโน้มราคาคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวเฮ้าส์ ในปี 2564 จากข้อมูลบ้านมือสองในเขตกรุงเทพและปริมณฑลที่ลงประกาศขายใน TerraBkk จำนวน 170,000 ทรัพย์ พบว่า ราคาคอนโดมิเนียมปี 2563 ปรับตัวลดลง  6.5% ราคาเฉลี่ย 4.39 ล้านบาท  หรือ  88,000 บาทต่อตร.ม. บ้านเดี่ยว ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.6 %ราคาเฉลี่ย 7.39 ล้านบาท และทาวเฮ้าส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น  1.8  %ราคาเฉลี่ย 3 ล้านบาท

จากแนวโน้มราคาในเดือนม.ค. 2564 เริ่มเห็นสัญญาณการปรับตัว"ลดลง"ของทั้งคอนโดมิเนียม ทำเลที่ไม่ได้อยู่ใจกลางเมือง ส่วนบ้านเดี่ยว และทาวเฮ้าส์ จะอยู่ในทำเลติดขอบปริมณฑล เชื่อมต่อสมุทรสาคร และสมุทรปราการ  คอนโดมิเนียม โดยทำเลใจกลางเมือง สีลม-สาทร-พระราม 3 ราคาคอนโดมิเนียมยังคงปรับตัวสูงขึ้น 140,000 – 160,000 บาทต่อตร.ม.  ส่วนสุขุมวิท – ทองหล่อ ราคายังทรงตัว 160,000 บาทต่อตร.ม.ในขณะที่ทำเลเอกมัย-พระราม 4 ราคาปรับตัวลดลงเฉลี่ย 100,000 – 120,000 บาทต่อตร.ม. , ย่านรัชดาฯ-ห้วยขวาง ราคาลดลงเฉลี่ย 80,000 บาทต่อตร.ม.

ส่วนบ้านเดี่ยว ทำเลที่มีการปรับราคาปรับลดลง คือ คลองหลวง-ปทุมธานี ราคาเฉลี่ย 4.2 ล้านบาท , ทุ่งครุ่-ราษฎร์บูรณะ ราคาเฉลี่ย 3.9 ล้านบาท,สะพานสูง-มีนบุรี ราคาเฉลี่ย 4.95 ล้านบาท และ สมุทรสาคร  ราคาเฉลี่ย 4.5 ล้านบาท ขณะที่ทาวน์โฮม ทำเลที่มีการปรับราคาปรับลดลง คือ แจ้งวัฒนะ-ดอนเมืองราคาเฉลี่ย 2.98 ล้านบาท ,ราชพฤกษ์-นครอินทร์ ราคาเฉลี่ย 1.8 ล้านบาท , เอกชัย-บางบอน 1.8 ล้านบาท เป็นต้น

 โดยอสังหาริมทรัพย์มือสองที่มีมูลค่ามากกว่า 20 ล้านบาท แนวโน้มราคายังปรับตัวสูงขึ้น ทั้งในทำเลใจกลางเมือง และทำเลเชื่อมต่อ อาทิ เกษตรนวมินทร์-รามอินทรา, กัลปพฤกษ์-สาทร,จตุจักร-ประชาชื่น,พระราม2-บางขุนเทียน

 นางสาวสุมิตรา กล่าวว่า การซื้อขายบ้านมือสอง จะเป็นการซื้อขายเปลี่ยนมือจากประชาชน สู่ประชาชนเป็นหลัก สำหรับแนวโน้มราคาที่ลดลงในปี 2564 น่าจะสะท้อนภาวะผ่อนชำระไม่ไหว เลยกดดันให้ผู้ขายยอมลดราคาลงเพื่อจะได้ปลอดหนี้ หากวิเคราะห์รายทำเลก็พบว่าจะเกิดในทำเลรอบนอกเมืองมากกว่าใจกลางเมือง ดังนั้น นโยบายช่วยเหลือด้านการซื้อขายบ้านมือสอง น่าจะเป็นทางออกให้กับภาคครัวเรือนในการช่วยปลดภาระหนี้ก้อนใหญ่ ได้อีกช่องทางหนึ่ง ทั้ง การลดค่าธรรมเนียมการโอน และค่าจดจำนอง ให้เทียบเท่าโครงการใหม่

 "ที่ผ่านมาบ้านมือสองยังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นรัฐบาลควรจะเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้เป็นเจ้าของบ้านง่ายขึ้น ด้วยการออกมาตรการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ ลดภาระค่าใช้จ่ายแก่ผู้ซื้อเพื่อเพิ่มโอกาสในการขายเพิ่มขึ้น แนวโน้มภาพรวมการซื้อขายบ้านมือสองยังเป็นไปในทิศทางบวก และถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีของผู้บริโภค แทนการเลือกซื้อบ้านมือหนึ่งที่อาจจะมีราคาแพงเกินกำลังซื้อด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว ผู้บริโภคมีกำลังลดลง ต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง"

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ตลาดบ้านมือสองในช่วงหลังเกิดโควิด พบว่า เจ้าของทรัพย์ต้องการขายหรือปล่อยเช่าสูงขึ้นเนื่องจาสภาพเศรษฐกิจฝืด ถึงกระนั้นปิดการขายได้ยาก เพราะผู้ซื้อถูกปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารสูงขึ้นมากไม่ต่างจากโครงการอสังหาฯมือหนึ่ง เนื่องจากธนาคารมีมาตรการเข้มงวดมากขึ้น