ไทยปักเข็มแรก 'วัคซีนโควิด-19'

ไทยปักเข็มแรก 'วัคซีนโควิด-19'

ไทยเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 “อนุทิน” ประเดิมเข็มแรก ตามด้วย 3 รมต.-ผบ.สธ. สร้างความมั่นใจให้ประชาชน นายกฯอดอายุเกิน 60 ปี 1 มี.ค. ดีเดย์ฉีดกลุ่มเป้าหมายระยะแรก 13 จังหวัด

     เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 28 ก.พ.2564 ที่สถาบันบำราศนราดูร กระทรวงสาธารณสุข พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเดินทางมาเป็นสักขีพยานและให้กำลังใจในการฉีดวัคซีนโควิด-19เข็มแรกของประเทศ ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตายของบริษัท ซิโนแวค  ซึ่งคณะแพทย์ของประเทศไทยแนะนำให้ฉีดในผู้ที่มีอายุ 18-59 ปีเนื่องจากยังมีผลการศึกษาในกลุ่มที่อายุ 60 ปีขึ้นไปน้อย  ทำให้นายกฯไม่สามารถฉีดวัคซีนยี่ห้อนี้ได้ ดังนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข จึงฉีดเป็นเข็มแรก มีศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญไวรัสวิทยาคลินิก  รพ.จุฬาลงกรณ์เป็นผู้ฉีดให้

         161448022782
    ต่อด้วยนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สธ. นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม  นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดสธ. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค  นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการนับเป็นสุภาพสตรีหญิงคนแรกของไทยที่ได้ฉีด ตามลำดับ ส่วนนายเฉลิม ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เดินทางมาเพื่อรับการฉีดด้วย แต่เนื่องจากคัดกรองแล้วพบว่าความดันโลหิตขึ้นสูง แพทย์จึงไม่แนะนำให้ฉีด


     ทั้งนี้ ผู้ที่รับการฉีดเมื่อสังเกตอาการหลังฉีดแล้ว 30 นาที พบว่าททุกคนสบายดี ไม่มีผลข้างเคียงใดเกิดขึ้น  ซึ่งสถานบันบำราศฯเป็ฯสถานพยาบาลแห่งแรกที่เริ่มต้นการฉีดวัคซีนโควิด-19 และในวันที่ 28 ก.พ.จะมีการฉีดที่รพ.สมุทรสาครอีกแห่งหนึ่ง ส่วนสถานพยาบาลอื่นใน 13จังหวัด ที่ได้รับการจัดสรรเป็นพื้นที่แรกของการให้วัคซีนซิโนแวคล็อตแรก 2 แสนโดส จะเริ่มดำเนินการฉีดให้กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดในวันที่ 1 มี.ค.2564 
161448077097
   

นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ ผอ.สถาบันบำราศฯ กล่าวว่า วันที่ 28 ก.พ.ดำเนินการฉีดวัคซีนทั้งหมด 200 โดส ทั้งนี้สถาบันบำราศฯสามารถบริการฉีดให้กับประชาชนได้วันละประมาณ 600 โดส ซึ่งจะใช้อาคารอัจฉราให้บริการฉีดวัคซีนประชาชนจนถึงสิ้นปี 2564 โดยใช้บริเวณชั้น 1 สำหรับการสังเกตอาการหลังการรับวัคซีนจนครบ 30 นาที และจะทยอยจัดลำดับการขึ้นไปรับวัคซีนตามมาตรการเว้นระยะห่าง อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนในวันที่28 ก.พ. จะได้รีบเข็มที่ 2 ในวันที่ 22 มี.ค.นี้

สำหรับ 13 จังหวัดที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนก่อน ประกอบด้วย สมุทรสาคร กรุงเทพฯ ราชบุรี เพชรบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ อ.แม่สอด จ.ตาก ภูเก็ต เชียงใหม่ อ.เกาะสมุยจ.สุราฎร์ธานี  และชลบุรี ในกลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่ม คือ บุคลากรทางการแพทย์  ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง  เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโควิด-19ที่มีโอกาสสัมผู้ป่วย และประชาชนทั่วไปและแรงงาน 
161448078811