The Gold of Armagnac Vs ไวน์โก๊ต เดอ กาสกอญ

The Gold of Armagnac  Vs ไวน์โก๊ต เดอ กาสกอญ

ภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ‘South West France’ หรือ ‘ฟรองช์ ซู้ด เวสต์’ (French Sud-Ouest) ในภาษาฝรั่งเศส เป็นเขตผลิตไวน์ที่กว้างใหญ่ไพศาล แต่ได้ชื่อว่า ‘France’s Hidden Corner’

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น... สาเหตุจากเขตผลิตไวน์ทางตะวันตกเฉียงใต้นี้ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันเท่าใดนักเมื่อเทียบกับเขตอื่น ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นคุณภาพของไวน์ไม่ถูกปากต้องลิ้นของผู้คน

อย่างไรก็ตาม South West France เป็นเขตผลิตไวน์ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของฝรั่งเศส มีพื้นที่ปลูกองุ่นถึง 120,000 เอเคอร์ มีอาณาเขตทางใต้ติดกับเทือกเขาพีเรนีส (Pyrénées Mountains) และประเทศสเปน ทางเหนือติดกับ บอร์กโดซ์ (Bordeaux) และตะวันตกติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก (Atlantic Ocean) เป็นเขตใหญ่แต่มีมีพลเมืองเบาบางประมาณ 10 คนต่อตารางไมล์ 

161435159892

    เขตผลิตไวน์ South West France

South West France แบ่งเป็น 4 เขตย่อย (Sub-regions) แต่ละเขตมีเอกลักษณ์ของตนเองทั้งอากาศ, องุ่น และแคแรคเตอร์ของไวน์ ประกอบด้วยเขตแบเฌอแฮรค และแม่น้ำดอร์ดอญ (Bergerac & Dordogne River) แกฮรอนน์ และตาร์น (Garonne & Tarn) ลุ่มน้ำโลต์ (Lot River) และพีเรนีส (Pyrénées)

ที่จะกล่าวถึง ณ ที่นี้คือ โก๊ต เดอ กาสกอญ (Côtes de Gascogne) ในดีพาร์ตเมนต์แฌรส์ (Gers) ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของ Pyrénées ที่มีฐานะเป็น IGP (Indication Geographique Protégé) ผลิตสติลไวน์ (Still Wine) ทั้งไวน์ขาว ไวน์แดง และโรเซ่ ส่งออกถึง 75% ของการผลิตได้ทั้งหมด ขณะเดียวกันยังครอบคลุม อาร์มาญัค (Armagnac) สุดยอดบรั่นดีของโลกด้วย ซึ่งในครั้งนี้เราจะชิมกันทั้งไวน์ขาว ไวน์แดง โรเซ่ และอาร์มาญัค

161435163951

     Domaine d'Esperance

สำหรับไวน์ที่จะชิมเป็นของ  โดเมน เดสเปฮรองซ์ (Domaine d’Espérance) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอาร์มาญัคระดับคุณภาพเจ้าหนึ่งของโลก และมีขายในเมืองไทยหลายรุ่น อยู่ในเขตบาส์ ซามาญัค (Bas Armagnac ) 1 ใน 4 เขตผลิตอาร์มาญัค ถ้าไปจากบอร์กโดซ์ขับรถประมาณ 1 ชั่วโมง เจ้าของคือ ฌอง หลุยส์ (Jean-Louis) และแคลร์ เดอ มงเตสคิว (Claire de Montesquiou) ซึ่งซื้อโดเมนแห่งนี้มาในปี 1990 แล้วพัฒนาจนมีชื่อเสียง

Claire de Montesquiou มีเพื่อนและรู้จักคนในวงการชั้นสูงของฝรั่งเศสมากมาย หนึ่งในจำนวนนั้นคือ ฌอง ชาร์ล เด กาสเตลบาแฌค (Jean-Charles de Castelbajac) เพื่อนของเธอที่เป็นนักออกแบบแฟชั่นชื่อดัง เป็นคนออกแบบฉลากไวน์ทั้งหมดนี้ จริง ๆ มีด้วยกัน 4 รุ่น แต่ผู้นำเข้ามาเพียง 3 รุ่น อีก 1 เป็นไวน์หวานไม่ได้นำเข้ามา ดังนี้

161435169129

     Espérance "Cuvée d'Or"

เอสเปฮรองซ์  “คูเว ดอร์” ไอจีพี โก๊ต เดอ กาสกอญ 2019 (Espérance "Cuvée d'Or" IGP Cote de Gascogne 2019) : ไวน์ขาวที่ทำจากองุ่น 2 พันธุ์คือโซวีญยอง บลอง (Sauvignon Blanc) 60 % และโกรส์ มอนเซง (Gros Manseng) 40% อัตราส่วนนี้แต่ละปีอาจจะไม่เท่ากัน แต่โซวีญยอง บลองอมักจะมากกว่า  ขณะที่ Gros Manseng เป็นองุ่นเขียวเก่าแก่รู้จักกันมาตั้งแต่ปี 1562 ปลูกมากที่สุดในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส บ้านเราแทบไม่ค่อยรู้จักกัน

161435173616

     องุ่นเขียว Gros Manseng

คำว่า Gros แปลว่า Large เนื่องจากขนาดของผลค่อนข้างใหญ่ ...สีเหลืองทองอ่อน ๆ สดใส ดมครั้งแรกหอมคล้าย ๆ ดอกมะลิกรุ่น ๆ แอพริคอท เกรพฟรุต เลมอน กูสเบอร์รี สไปซีนิด ๆ เฮิร์บเขียว ๆ แอสิดสดชื่นมาก ๆ จบปานกลางด้วยดอกไม้ ผลไม้ และสไปซีกรุ่น ๆ ควรแช่ประมาณ 8-9 องศาเซลเซียส......17/20 คะแนน

161435177735  

       Espérance "Cuvée Rosée"

เอสเปฮรองซ์ “คูเว โรเซ่” ไอจีพี โก๊ต เดอ กาสกอญ 2019 (Espérance "Cuvée Rosée" IGP Cote de Gascogne 2019) : โรเซ่ที่ดื่มง่าย ๆ แต่อร่อยเจ้าหนึ่งในตลาดบ้านเรา ทำจากกาแบร์เนต์ ฟรองซ์ (Cabernet Franc) และกาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet-Sauvignon) ในอัตรา 50-50%.....สีออกไปทางแซลมอน หอมกลิ่นกลีบกุหลาบแห้ง ๆ ผลไม้ เช่น เรดเบอร์รี ราสพ์เบอร์รี เรดเชอร์รี และสตรอว์เบอร์รี สไปซีเฮิร์บ ฟางแห้งหอมกรุ่น แอสิดสดชื่น แทนนินกรุ่น ๆ จบปานกลางด้วยผลไม้ สไปซี แช่เย็นประมาณ 8-9 องศาเซลเซียส ดื่มแล้วเพลิดเพลิน แนะนำให้ซื้อเตรียมไว้หน้าร้อนที่จะถึงนี้เลย....17/20 คะแนน 

161435181932  

       Espérance "Cuvée Rouge"

เอสเปฮรองซ์ “คูเว ฮรูจ” ไอจีพี โก๊ต เดอ กาสกอญ 2018 (Espérance "Cuvée Rouge" IGP Cote de Gascogne 2018) : ไวน์แดงที่ทำจากองุ่นตานนาต์(Tannat) 80% และแมร์โลต์ (Merlot) 20 % เป็นไวน์แดงที่สมควรชิม เพราะทำจากองุ่นตานนาต์ซึ่งหาชิมยากในบ้านเรา เป็นองุ่นประจำถิ่นของภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ (Sud-Ouest) ของฝรั่งเศส โดยเฉพาะ Madiran AOC ทำได้ดีมาก ปัจจุบันตานนาต์เป็นองุ่นแดงประจำชาติของอุรุกวัย....สีแดงสดใส หอมกลิ่นผลไม้ เช่น แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี พลัม เชอร์รี เมล็ดกาแฟคั่ว สไปซี จันทน์เทศ วานิลลา คาราเมล แอสิดสดชื่น แทนนินนุ่ม จบยาวด้วยผลไม้ สไปซี และวานิลลา....17.5/20 คะแนน

161435189698

       ภายในโรงกลั่น Laberdolive

เมื่อมาถึงถิ่นของ อาร์มาญัค แล้ว ไม่เข้าไปในบ้านของเขาถือว่ายังไม่ถึงอย่างแท้จริง แต่เราจะไม่ได้ชิมอาร์มายักของ “โดเมน เดสเปฮรองซ์” (Domaine d’Espérance) ซึ่งผมเคยนำเสนอไปเมื่อปีก่อน ในวันที่แคลร์ เดอ มงเตสคิว (Claire de Montesquiou) เจ้าของเดินทางมาแนะนำอาร์มาญัคของเธอเมืองไทย แต่จะชิมของอีกเจ้าหนึ่งซึ่งเพิ่งจะเดินทางมาถึงเมืองไทยขวดยังอุ่น ๆ ถือเป็นไฮไลต์ของครั้งนี้

  161435194131

     Pierre Laberdolive

ลาแบรโดลีฟ (Laberdolive) คืออาร์มาญัคตัวที่ว่า ซึ่งก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน เพราะทำอาร์มาญัคมากว่า 100 ปี ในเขต Bas Armagnac เช่นกัน ณ วันนี้อยู่ภายใต้การดำเนินการของทายาทรุ่นที่ 6 นำโดย ปิแอร์ ลาแบรโดลีฟ (Pierre Laberdolive) ที่สำคัญทำแบบคราฟท์ อาร์มาญัค คือกระบวนการต่าง ๆ ทำด้วยมือ กลั่นด้วยหม้อกลั่นต่อเนื่องแบบโบราณที่ใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิง บรรจุขวดจากถังบ่มโดยตรง ไม่มีการเสริมเติมแต่งใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นสี, น้ำ ฯลฯ ขณะที่ถังบ่มก็เป็นถังที่มาจากป่าของครอบครัว ขณะที่ Pierre Laberdolive  นั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นมือกลั่นระดับซือแป๋เรียกอาจารย์ อาร์มาญัคที่ออกจากมือของเขาได้รับการขนานนามว่า The Gold of Armagnac

  161435203693

       ไร่องุ่นในโก๊ต เดอ กาสกอญ

ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่บุคคลระดับซูเปอร์วีไอพีของโลกจะต้องแวะมาเยี่ยมเยียนโรงกลั่น Laberdolive เช่น นีกีตา ครุชชอฟ (Nikita Khrushchev) อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต และอดีตนายกรัฐมนตรีของรัสเซีย (1958-1964) เคยไปเยี่ยมโรงกลั่น Laberdolive แห่งนี้และกลับมาพร้อมกับ Laberdolive 1 ขวด

ขณะที่ ฌาร์ค ชิฮราค (Jacques Chirac) อดีตประธานาธิบดีของฝรั่งเศส หิ้ว Laberdolive 1972 ไปดื่มฉลองเมื่อครั้งเดินทางไปเยือนอย่างเป็นทางการในระดับประมุขของรัฐ (State Visit) กับผู้นำของประเทศจีน เป็นต้น

  161435207471

      องุ่น Tannat

หลังจากนั้นอาร์มาญัค Laberdolive ก็ไปปรากฏอยู่ในภัตตาคารชั้นยอดในยุโรป ใครไม่มีถือว่าเชยแหลก หนึ่งในจำนวนนั้นคือ ลา ตูร์ ดาร์ฌอง (La Tour d'Argent) ร้านเก่าแก่ในกรุงปารีส (ก่อตั้งปี 1582 – ปัจจุบัน ) ที่มีเมนูดังคือเป็ดอัด ซึ่งเดวิด ริดจ์เวย์ (David Ridgway) Chef-sommelier บอกว่า Considered for a long time to be the benchmark of Armagnac.....น้ำลายสอแล้ว ไปชิมกันเลยดีกว่า 

  161435198235

         Laberdolive Terre-Bouc Bas Armagnac 12 ans d’age

ลาแบรโดลีฟ แตรร์ บูค บาส์ ซามาญัค 12 อองส์ดาจ  (Laberdolive Terre-Bouc Bas Armagnac 12 ans d’age) : เป็นอาร์มาญัค 12 ปีที่ไม่ธรรมดา สีอำพันสดใส ฟรุตตี้ดีมาก หอมกลิ่นลูกเกด จูนิเปอร์ แอปเปิ้ล แพร์ กล้วยหอมสุก เปลือกส้ม วานิลลา ควันไฟจากโอ๊คกรุ่น ๆ น้ำผึ้ง กล่องซิการ์ จบค่อนข้างยาวด้วยลูกเกด ไม้ซีดาร์ และวานิลลา เป็นอาร์มาญัค 12 ปี ที่คุ้มค่าเกินราคา....18.5/20 คะแนน

ทั้งหมดนั้นเป็นข้อมูลเพื่อการศึกษาหาความรู้ มิได้มีเจตนาแม้แต่น้อยที่ชักชวนให้ดื่ม แต่ถ้าจะดื่ม “ต้องดื่มด้วยความรับผิดชอบทั้งต่อตัวเองและสังคม”...ไวน์และอาร์มาญัคดังกล่าวนำเข้าโดยบริษัท Exquisite Elixir Co.,Ltd. สอบถามโทร.09 8 909 2116