เฟดไม่ลดวงเงินคิวอีแม้สหรัฐมีแนวโน้มศก.แกร่ง

เฟดไม่ลดวงเงินคิวอีแม้สหรัฐมีแนวโน้มศก.แกร่ง

เฟดไม่ลดวงเงินคิวอีแม้สหรัฐมีแนวโน้มศก.แกร่งและการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า การที่เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มแข็งแกร่ง และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จะไม่เป็นสาเหตุทำให้เฟดพิจารณาปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ในแต่ละเดือนเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

“ท่านประธานเฟดต้องการให้คณะกรรมการเฟดมีการหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินในการทำคิวอีก็ต่อเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งเราจะไม่ทำอะไรล่วงหน้า ซึ่งแม้ผมคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจที่สดใส แต่มันก็ยังคงเป็นการคาดการณ์ และผมต้องการที่จะเห็นมันเป็นจริงก่อน” นายบูลลาร์ดกล่าว

ทั้งนี้ เฟดได้ซื้อพันธบัตรตามมาตรการคิวอีวงเงินรวม 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน โดยเฟดซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 8 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (เอ็มบีเอส) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน

ขณะเดียวกัน นางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแคนซัส ซิตี้ กล่าวว่า การดีดตัวของอัตราดอกเบี้ยระยะยาวในระยะนี้เป็นสัญญาณที่แสดงถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หลังจากมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้าง

“การปรับตัวขึ้นดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นการสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และอาจถือเป็นสัญญาณที่ดีเกี่ยวกับคาดการณ์การขยายตัวที่เพิ่มขึ้น” นางจอร์จกล่าว

นางจอร์จระบุว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงมีความไม่แน่นอน

ขณะเดียวกัน นางจอร์จแสดงความกังวลต่อการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดรอบใหม่ และระบุว่าเศรษฐกิจจะยังคงไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ จนกว่ากิจกรรมในแต่ละวันของภาคธุรกิจและครัวเรือนจะไม่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19

“ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะหารือถึงการยกเลิกมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ในขณะที่การว่างงานยังคงอยู่ในระดับสูง, เงินเฟ้ออยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด และยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ” นางจอร์จกล่าว