‘เอปสัน’ ดิสรัปธุรกิจหวังโต 10% ปรับโมเดลสู่การให้บริการเต็มตัว

‘เอปสัน’ ดิสรัปธุรกิจหวังโต 10% ปรับโมเดลสู่การให้บริการเต็มตัว

ปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อธุรกิจของเอปสันยังคงเป็นสถานการณ์ทางการเมืองและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

อย่างไรก็ดี การจัดโครงสร้างและกระบวนการทำงานภายในองค์กร มีการขยายทีมขายบีทูบีทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงทีมพิเศษที่เน้นเจาะตลาดและดูแลลูกค้าองค์กรญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ทั้งยังขยายทีมบริการลูกค้าบีทูบีเพิ่มขึ้น ด้านการพัฒนาตัวแทนจำหน่าย มีการเพิ่มจำนวนตัวแทนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะตลาดและได้ฝึกอบรมตัวแทนเดิมให้สามารถขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ

นอกจากนี้ เน้นการเพิ่มสินค้าใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด เพื่อให้องค์กรทุกขนาดในทุกวงการธุรกิจได้เลือกโซลูชั่นที่เหมาะกับตัวเอง พร้อมจัดกิจกรรมทางการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าใหม่และตลาดใหม่ ที่สำคัญคือการเดินหน้าดิสรัปโมเดลธุรกิจในกลุ่มอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าองค์กรในปัจจุบันได้แม่นยำยิ่งขึ้น

ปรับโฉมธุรกิจรับตลาดเปลี่ยน

จากการสำรวจความเห็นขององค์กรธุรกิจพบว่า สิ่งที่บริษัทส่วนใหญ่กังวลคือค่าพิมพ์สีต่อแผ่น ตามด้วยคุณภาพงานพิมพ์ และบริการซ่อมบำรุง ล่าสุดเอปสันจึงได้เดินแผนดิสรัปโมเดลธุรกิจกลุ่มอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ทั้งหมด จากที่เคยเน้นการขายเครื่องมาเป็นการบริการงานพิมพ์

ล่าสุด เปิดตัวบริการเช่าเครื่องแบบใหม่ในชื่อ “Epson EasyCare 360 เหมา เหมา” โดยลูกค้าสามารถพิมพ์สีหรือขาวดำก็ได้ มากสุดถึง 120,000 แผ่น หรือนาน 24 เดือน ทั้งยังได้บริการซ่อมบำรุงถึงที่ และเบอร์โทรสายตรงตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง ทั้งหมดนี้ มีค่าบริการรายเดือนเริ่มต้น 790 บาท และจะได้รับเครื่องที่ใช้อยู่ไปฟรีหลังหมดสัญญา

"นอกจากดิสรัปชั่นโมเดลธุรกิจเพื่อให้ธุรกิจของเอปสันสามารถตอบโจทย์ความต้องการและพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าอยู่เสมอ บริษัทยังได้สร้าง Epson Virtual Solutions Center เพื่อให้ลูกค้าบริการลูกค้าบีทูบีในประเทศไทย กัมพูชา ลาว เมียนมา และปากีสถาน ที่อยู่ภายใต้การดูแลของเอปสัน ประเทศไทย"

โดยโซลูชั่นของเอปสันจะแบ่งออกไปตามประเภทธุรกิจหรืออุตสาหกรรม อาทิ เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน การพิมพ์ดิจิทัล ร้านค้าปลีก อุตสาหกรรมการผลิต การศึกษา สาธารณสุข และองค์กรธุรกิจ ขณะที่ในเฟสถัดไปจะมีการเพิ่มเติมโซนพิเศษสำหรับลูกค้าโฮมยูสทั่วไปให้สามารถมาชมสินค้าและพูดคุยกับพนักงานขายทางออนไลน์ได้ทันที เฟสแรกเตรียมเปิดให้บริการเดือนเม.ย.นี้

วิกฤติหนุนบริการดิจิทัลโตแรง

ยรรยงเผยว่า ปี 2563 ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจของประเทศที่จีดีพีติดลบ 6.1% กระทบหนักจากโรคโควิด-19 ซึ่งทำให้การอุปโภคบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนหดตัว ธุรกิจห้างร้านจำนวนมากปิดตัว ระบบซัพพลายเชนหยุดชะงัก แต่ขณะเดียวกันสถานการณ์ดังกล่าวได้เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่เศรษฐกิจดิจิทัลเร็วขึ้น

โดยเพิ่มปัจจัยบวกและโอกาสใหม่ที่สนับสนุนธุรกิจของเอปสัน ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนที่ลดลงจากการใช้แพลตฟอร์มการขายออนไลน์ ภาคการผลิตลงทุนใช้เอไอและระบบอัตโนมัติในกระบวนการผลิตมากขึ้น ภาคธุรกิจหันมาใช้โรงงานผลิตและระบบซัพพลายเชนภายในประเทศ โรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนเริ่มใช้อุปกรณ์ดิจิทัลในขั้นตอนการให้บริการ ซึ่งทำให้ยอดขายของบริษัทได้รับผลกระทบน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก

สำหรับกลุ่มสินค้าของเอปสันที่ทำผลงานได้ดีได้แก่ หุ่นยนต์แขนกล พรินเตอร์ฉลาก พรินเตอร์อเนกประสงค์ ขณะที่พรินเตอร์ใบเสร็จ โปรเจคเตอร์ และพรินเตอร์ดอทเมทริกซ์ มียอดขายลดลง ส่วนอิงค์แท็งค์พรินเตอร์ ยังครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งที่ 43% โปรเจคเตอร์รักษาตำแหน่งเจ้าตลาดด้วยส่วนแบ่ง 33%