พาณิชย์ไร้น้ำยาคุมราคา 'ปาล์มขวด'

พาณิชย์ไร้น้ำยาคุมราคา 'ปาล์มขวด'

“พาณิชย์” งัดมุขเดิมขอความร่วมมือผู้ผลิตปาล์มขวดตรึงราคาขาย 48-49 บาท/ขวด ชี้เป็นราคาต้นทุนไม่เอากำไร คาดแนวโน้มราคาลดลงปลายก.พ. พร้อมทั้งหนังสือเวียนแจ้งเตือนร้านธงฟ้าห้ามทำผิดเงื่อนไขเข้าร่วมโครงการภาครัฐ หากผิดยกเลิกสิทธิ์เข้าร่วมโครงการทันที

บุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดที่ได้ปรับราคาสูงขึ้นมากจนกระทบกับผู้บริโภคนั้น ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือห้างร้าน ผู้ผลิตในการบริหารจัดการต้นทุน เพื่อตรึงราคาน้ำมันปาล์ม โดยขายในราคาต้นทุน ไม่เอากำไร เฉลี่ยราคา 48–49 บาท/ขวด ซึ่งขอย้ำว่ามีสินค้าเพียงพอกับความต้องการของประชาชน และคาดว่าแนวโน้มราคาน้ำมันปาล์มจะถูกลง หลังจากปลายเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลปาล์ม จะมีผลปาล์มออกมาจำนวนมากทำให้ราคาลดลง

ส่วน ราคาผลปาล์มดิบปัจจุบันที่ปรับตัวสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 7 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด และมีการหารือกับเกษตรกร ผู้ค้าเพื่อดูแลราคาไม่ให้สูงกว่านี้

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ดำเนินการตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าของร้านที่เข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่ง และโครงการเราชนะ ฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าจริงหรือไม่ เบื้องต้นไม่พบว่ามีการจำหน่ายเกินราคา แต่อาจจะมีบางสินค้าขึ้นราคาบ้างเพราะมีต้นทุนที่สูงขึ้น

ส่วนที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่ง และโครงการเราชนะ มีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้า เพื่อป้องกันและแจ้งเตือนร้านธงฟ้าไม่ให้มีพฤติกรรมฉวยโอกาส หรือกระทำผิด กรมการค้าภายในจึงได้ส่งหนังสือเวียนถึงร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นทั่วประเทศ ให้ถือปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ คือ ห้ามยึดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ห้ามรับ/แลกเป็นเงินสด ห้ามบังคับการซื้อ/ขายสินค้า ห้ามจำหน่ายบุหรี่/สุรา/เบียร์ให้แก่ผู้ถือบัตรฯ ห้ามเอาเปรียบฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาและขายเกินราคาที่กำหนดโดยเด็ดขาด

กรณีที่พบว่ามีการกระทำผิดดังกล่าวจะถูกเพิกถอนสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและแจ้งกรมบัญชีกลางในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการเพื่อเรียกคืนเครื่องอีดีซี หรือยกเลิกการใช้แอพพลิเคชั่นด้วย นอกจากนี้จะประสานกระทรวงการคลังในฐานะผู้ดูแลโครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ หรือโครงการอื่นๆ ด้วย

อย่างไรก็ตามหากตรวจสอบพบว่าไม่ปิดป้ายแสดงราคาจะมีโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และหากจำหน่ายสูงเกินสมควร จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยหากประชาชนพบร้านค้าที่ฉวยโอกาสปรับราคาสินค้า หรือไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดประเทศ