'ก.ล.ต.' เล็งคุมรายย่อย 'คริปโตเคอเรนซี' ต้องมีรายได้ 1 ล้านบาทต่อปี

'ก.ล.ต.' เล็งคุมรายย่อย 'คริปโตเคอเรนซี' ต้องมีรายได้ 1 ล้านบาทต่อปี

"ก.ล.ต." ร่างกฎเกณฑ์ใหม่ คุมนักลงทุน "คริปโตเคอเรนซี" ต้องมีรายได้ 1 ล้านบาทต่อปี และต้องผ่านการทดสอบความรู้ไม่น้อยกว่า 80%

วันนี้ (25 ก.พ.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกเอกสารรับฟังความคิดเห็น เรื่อง การกำหนดคุณสมบัติผู้ลงทุนในคริปโตเคอเรนซี โดยเนื้อหาหลักนักลงทุนต้องมีรายได้ หรือสินทรัพย์เกินเกณฑ์ที่กำหนดก่อนที่จะลงทุนในคริปโตเคอเรนซี รวมถึงต้องมีความรู้ และทดสอบความรู้ก่อนลงทุน ซึ่งรายละเอียดแบ่งออกเป็น

1. คุณสมบัติของผู้ลงทุน

เพื่อวัดความสามารถในการรับความเสี่ยงของผู้ลงทุน และจะพิจารณา 2 เรื่องหลัก ๆ แบ่งออกเป็น

ฐานะการเงิน
- ต้องมีรายได้ต่อปี ไม่รวมคู่สมรส 1 ล้านบาทต่อปี หรือเกินกว่า 8.3 หมื่นบาท ต่อเดือน หรือ
- มีสินทรัพย์สุทธิ (net worth) ตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ไม่รวมมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้เป็นที่พักอาศัยประจำ หรือ
- มีมูลค่าการลงทุนในหลักทรัพย์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือสินทรัพย์ดิจิทัล ตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป

ความรู้
ผู้ลงทุนจะต้องมีประสบการณ์ลงทุนในคริปโตเคอเรนซี หรือมีประสบการณ์ลงทุนในหลักทรัพย์ หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ กลต.กำหนด เช่น ผู้แนะนำการลงทุน, นักวิเคราะห์การลงทุน หรือผู้ที่ถือ CFA, CISA, CAIA หรือ CFP

หากผู้ที่จะลงทุนมีคุณสมบัติไม่ครบตามข้างต้น จะไม่สามารถลงทุนในคริปโตเคอเรนซีได้โดยตรง แต่ยังสามารถลงทุนผ่านผู้ที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล

ขณะเดียวกัน ในการเปิดบัญชีใช้บริการใหม่ ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องกำหนดเงินขั้นต่ำในการเปิดบัญชีไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท

2. การกำหนดให้ผู้ลงทุนต้องผ่านการทดสอบความรู้

เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ลงทุนจะมีความรู้ ความเข้าใจเพียงพอเหมาะสม กลต.จึงกำหนดให้ผู้ประกอบการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องทดสอบความรู้ผู้ลงทุน ครอบคลุมเนื้อหาตั้งแต่ ลักษณะของสกุลเงินดิจิทัล ความเสี่ยง และผลตอบแทน
โดยผู้ที่จะเข้าไปลงทุนได้ต้องได้รับคะแนนไม่น้อยกว่า 80%

กลต. เน้นย้ำว่า ผู้ลงทุนที่สามารถลงทุนในคริปโตเคอเรนซีได้ ต้องมีทั้งคุณสมบัติด้านฐานะการเงินและด้านความรู้ประกอบกัน

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปทำแบบสำรวจ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 27 มี.ค. 2564 ได้ที่นี่