คงมุมมองเชิงบวกระยะกลางไม่เปลี่ยน และหาจังหวะทยอยเพิ่มน้ำหนัก

คงมุมมองเชิงบวกระยะกลางไม่เปลี่ยน และหาจังหวะทยอยเพิ่มน้ำหนัก

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อยู่ในจุดที่มีโอกาสชะลอตัวลง

การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ แม้อาจกระทบกับแรงขายทำกำไรหุ้นในช่วงที่ผ่านมา แต่การเพิ่มขึ้นดังกล่าวสะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อเงินเฟ้อและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวก ขณะที่ถ้อยแถลงของประธานเฟด เจอโรม พาวเวล ที่ประเมินอาจต้องใช้เวลามากกว่า 3 ปีที่เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นจนแตะเป้าหมายของเฟด ทำให้ความกังวลของนักลงทุนจะเริ่มลดลง และมีโอกาสทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรหลังปรับตัวขึ้นแตะ 1.4% มีโอกาสปรับลดลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกกับทิศทางเงินทุนที่ไหลเข้าในสินทรัพย์เสี่ยงและหุ้น

ข่าวฮ่องกงขึ้นภาษีซื้อขายหุ้นและการปรับหุ้นตาม MSCI กระทบตลาดสั้น แต่เป็นโอกาสซื้อ ฮ่องกงประกาศเพิ่มภาษีอากรสแตมป์ (Stamp duty) สำหรับการซื้อขายหุ้นเป็น 0.13% (จาก 0.10%) ซึ่งทำให้ต้นทุนในการทำธุรกรรมสูงขึ้น กดดันบรรยากาศของหุ้นฮ่องกงและการซื้อขายในเอเชียวานนี้ อย่างไรก็ตามคาดเป็นผลเฉพาะตัวในระยะสั้นเท่านั้น ขณะที่วันนี้ตลาดอาจผันผวนจากการปรับน้ำหนักหุ้นตามดัชนี MSCI ที่จะมีผลในช่วงสิ้นวัน ผู้ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าควรเพิ่มความระมัดระวัง อย่างไรก็ตามความผันผวนเป็นโอกาสในการทยอยสะสมและลงทุนที่ดี

คำพิพากษาคดีกปปส.ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครม. แต่ไม่กระทบเสถียรภาพการเมือง ศาลอาญามีคำตัดสินให้แกนนำกปปส.มีความผิดและต้องโทษฐานกบฎ จากเหตุการชัตดาวน์กรุงเทพ ส่งผลให้รมว.ที่ร่วมรัฐบาลหลุดจากตำแหน่ง 3 ราย ทำให้น่าจะมีการปรับครม.ตามมา หรือแม้กระทั่งอาจยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจะส่งผลให้เรื่องแก้รัฐธรรมนูญตกไป อย่างไรก็ตาม เราประเมินไม่มีผลต่อเสถียรภาพทางการเมืองจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาในช่วงหลังส่งผลบวกต่อคะแนนนิยมของรัฐบาล  

ตลาดเลือกเก็งกำไรรายตัว โดยธีมที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) กลุ่มท่องเที่ยว-ธนาคาร จากการผ่อนคลายเศรษฐกิจ และมาตรการออก REIT buy back อาจส่งผลบวกต่อการบริหารสภาพคล่องและการฟื้นตัวของผลการดำเนินงาน ซึ่งในกลุ่มนี้ เราชอบธนาคารที่ยัง Laggard อย่าง BBL, SCB, AWC, MINT, CPN, BDMS 2) กลุ่มเปิดเศรษฐกิจ บวกต่อ CPN, CRC, MAJOR, SPA, BDMS, M 3) ได้ประโยชน์จากเราชนะ TNP เนื่องจากเป็นร้านค้าธงฟ้า 4) ไฟฟ้าชุมชน ยื่นซอง 22 มี.ค.-2 เม.ย. เรามองบวกต่อพลังงานทดแทน โดยเฉพาะ ETC และ ACE

ภาพรวมกลยุทธ์ เพิ่มน้ำหนักหุ้นขึ้นเป็น 60% แม้อาจมีความผันผวนบ้างในระยะสั้น แต่ตามภาพระยะกลางยังคงมุมมองเชิงบวก โดยช่วงสั้นเน้นการเก็งกำไรรายตัว และอาจเพิ่มน้ำหนักบางส่วนในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ โดยเน้นหุ้นที่มีกระแสเงินสดแข็งแกร่ง และเสี่ยงต่อเพิ่มทุนต่ำ // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร CPN*, MAJOR*, CPF*, THRE*

แนวรับ 1,502/ แนวต้าน : 1,528-1,550 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

สศค.เผยเศรษฐกิจไทยเดือน ม.ค.64 ส่งสัญญาณชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้า ทั้งในด้านการใช้จ่ายภายในประเทศ และในด้านการท่องเที่ยว แต่ส่งออกยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง

คลัง พร้อมโอนเงิน "เราชนะ" งวดใหม่. จำนวน 1,000 บาท ให้กับประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชันเป๋าตัง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ เราชนะในวันที่ 25 ก.พ. 64 และจะมีการโอนวงเงินสิทธิงวดที่ 4 จำนวน 675 หรือ 700 บาท ให้แก่ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในวันที่ 26 ก.พ. 64 เผยยอดใช้จ่ายเกือบ 2 หมื่นลบ

THRE - ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 10% หลังรายงานข้อพิพาทกับ Korean Re เนื่องจากส่งการรับประกันภัยต่อ หลัง Korean Re ยังค้างชำระเงินให้บริษัท 140 ล้านบาท อย่างไรก็ตามนักลงทุนอาจตกใจจากการฟ้องกลับของ Korean Re ที่วงเงิน 750 ล้านบาท ซึ่งความเห็นที่ปรึกษาทางกฎหมายของบริษัท (MaKency) ประเมินไม่มีน้ำหนัก ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/63 รายงานกำไร 61 ล้านบาท ชะลอลงจากไตรมาสก่อนที่ 74 ล้านบาท จากการตั้งค่าใช้จ่ายสู้คดี แต่เพิ่มขึ้นมากจากขาดทุน 79 ล้านบาท ในไตรมาส 4/62

ประเด็นติดตาม: - 25 ก.พ. : US GDP 4Q20, US initial jobless claims, TH Industrial production เดือน ม.ค., รายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทย เดือน ม.ค.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)