'ไบเดน'สั่งทบทวนแหล่งจัดหาเซมิคอนดักเตอร์

'ไบเดน'สั่งทบทวนแหล่งจัดหาเซมิคอนดักเตอร์

'ไบเดน'สั่งทบทวนแหล่งจัดหาเซมิคอนดักเตอร์-แร่หายาก หวั่นพึ่งพาจีนมากไป

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ออกคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดี เมื่อวันพุธ (24 ก.พ.) ให้หน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลกลางทำการทบทวนเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทานสำหรับผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์และแร่สำคัญต่างๆ เช่น แร่หายาก ท่ามกลางความกังวลว่า สหรัฐนั้นพึ่งพาจีนในฐานะผู้จัดหาทรัพยากรดังกล่าวมากเกินไป

แถลงการณ์จากทำเนียบขาวระบุว่า “รัฐบาลสหรัฐจะต้องรับประกันได้ว่า ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกำลังการผลิตไม่เพียงพอ, การที่ไม่สามารถซื้อขายได้ตามปกติ, ภัยธรรมชาติ หรือผลกระทบใดๆ อันเกิดจากคู่แข่งต่างชาติหรือฝ่ายตรงข้ามนั้น จะไม่มีทางบีบให้สหรัฐต้องต้องแบกรับความเสี่ยงสูงได้อีกต่อไป” และเปิดเผยว่า สหรัฐจะร่วมมือกับคู่ค้าและชาติพันธมิตรเพื่อแก้ไขปัญหานี้

คำสั่งพิเศษดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ภาวะขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ในภาคยานยนต์ทั่วโลก ได้ส่งผลให้โรงงานผลิตรถยนต์ในสหรัฐจำนวนมากเกิดความล่าช้าในขั้นตอนการผลิต อีกทั้งสหรัฐยังได้เผชิญกับภาวะขาดแคลนชุดป้องกันการติดเชื้อ (พีพีอี) สำหรับบุคลากรสาธารณสุขในช่วงแรกที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปีที่ผ่านมาด้วย

ในการออกคำสั่งพิเศษครั้งนี้ ปธน.ไบเดนจะเป็นผู้กำกับดูแลให้หน่วยงานต่างๆ ทำการทบทวนสถานการณ์เป็นเวลา 100 วัน เพื่อหาจุดอ่อนในด้านซัพพลายเชนของผลิตภัณฑ์สำคัญ 4 กลุ่ม ได้แก่ ยารักษาโรค, แร่สำคัญ, เซมิคอนดักเตอร์ และแบตเตอรีความจุสูงที่ใช้ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

สำหรับแร่สำคัญที่จำเป็นต่อผลิตภัณฑ์ทางการทหาร, เทคโนโลยี และด้านอื่นๆ นั้น ทางทำเนียบขาวระบุว่า รัฐบาลสหรัฐจำเป็นต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่า ไม่ได้มีการพึ่งพาแหล่งผลิตจากภายนอกประเทศ หรือเป็นเพียงขั้นตอนเดียวซึ่งอาจเกิดเหตุขัดข้อง หากสหรัฐตกอยู่ในสภาวะวิกฤต

ทั้งนี้ รายงานจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (ยูเอสจีเอส) เปิดเผยว่า แร่หายากราว 80% ที่สหรัฐนำเข้าระหว่างปี 2559-2562 นั้นมีแหล่งที่มาจากจีน

ในส่วนของผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์นั้น ทำเนียบขาวระบุว่า ที่ผ่านมาในสหรัฐยังไม่มีการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในระดับที่เพียงพอ ในขณะที่ชาติอื่นๆ ซึ่งได้เห็นสถานการณ์ในสหรัฐเป็นตัวอย่างแล้วนั้น ได้ส่งเสริมการลงทุนในภาคส่วนดังกล่าวแล้ว