'วราวุธ' มั่นใจแก้ปัญหารุกป่า 'บางกลอย-ใจแผ่นดิน' จบปีนี้

'วราวุธ' มั่นใจแก้ปัญหารุกป่า 'บางกลอย-ใจแผ่นดิน' จบปีนี้

“วราวุธ ศิลปอาชา” เชื่อมีคนอยู่เบื้องหลังชาวกะเหรี่ยงบางกลอย จงใจบิดเบือนข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดให้กับชาวบ้าน ย้ำไม่มีการใช้ความรุนแรง ระบุส่วนใหญ่พอใจพื้นที่รัฐจัดสรรให้ คาดเคลียร์จบในปีนี้

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่บ้านบางกลอย-ใจแผ่นดิน มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการเจรจา และหาข้อยุติร่วมกันระหว่างรัฐและชาวบ้าน แต่ทั้งหมดต้องยึดตามกฎหมายเป็นสำคัญ ซึ่งศาลปกครองมีคำพิพากษาออกมาชัดเจนแล้วว่า ใครก็ไม่สามารถขึ้นไปอยู่ในพื้นที่ใจแผ่นดินได้

โดยวันนี้ที่ยังมีชาวกะเหรี่ยงบางคนขึ้นกลับไปอยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวอยู่ เชื่อว่ามีคนบางกลุ่มจงใจบิดเบือนข้อมูล ไปบอกพี่น้องประชาชนในพื้นที่ว่าสามารถกลับขึ้นไปอยู่ได้ สร้างประเด็นดราม่าขึ้นมา พยายามไม่ให้ปัญหาเรื่องนี้จบ ดังนั้นจึงขออย่าสับสนประเด็น อย่าพึ่งดราม่า โดยวันนี้หัวใจสำคัญปัญหาอยู่ที่ประชาชนกลุ่มนึงไม่มีที่เดินทำกินเท่านั้นเอง

ทั้งนี้ย้ำว่า เจ้าหน้าที่รัฐไม่เคยใช้กำลังกับชาวบ้านแต่อย่างใด ทุกครั้งที่ขึ้นไปเรากำชับเจ้าหน้าที่ต้องมีกล้องบันทึกคลิปทุกครั้ง เน้นเจรจา หากไม่สำเร็จให้เว้นไว้ก่อนแล้วจึงกลับไปเจรจาใหม่

สำหรับชาววบ้านบางกลอยปัจจุบันมีจำนวนประมาณ 1,300 คน ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 80 พอใจในสิ่งที่รับาลได้เยียวยาให้ แต่มีเพียงร้อยกว่าคน หรือประมาณร้อยละ 10 ที่ยังไม่พึงพอใจในการเยียวยา ซึ่งจากนี้เป็นหน้าที่ของทางราชการที่ต้องเจรจาและจัดหาเยียวยาให้ตามเหมาะสม คาดว่าจะสามารถจัดการปัญหาเรื่องนี้ให้เรียบร้อยได้ภายในปีนี้แน่นอน

ด้านนางวัฒนา วชิโรดม ประธานคณะอนุกรรมการสมาคมอุทยานฯ สาขาภาคเหนือ และเลขาธิการการจัดการวิกฤตป่าและน้ำ ในฐานะที่ได้ไปร่วมสังเกตการณ์ขณะที่เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจ บอกว่า เท่าที่ได้ลงพื้นที่ บ้านโป่งลึก-บางกลอย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่รัฐจัดสรรชดเชยให้นั้น พบความเป็นอยู่ของชาวบ้านอยู่ในระดับดี มีความสุข เป็นชุมชนที่น่าอยู่ มีหน่วยงานราชการเข้าไปช่วยเหลือ มีเสาระบบส่งสัญญาณโทรศัพท์ มีโซลาร์เซล์ มีระบบไฟ-น้ำ มีร้านค้า และจากการที่ได้พูดคุยกับชาวบ้านยังไม่พบใครไม่พอใจในสิ่งที่รัฐเยีวยาให้แต่อย่างใด