ผันผวน

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ ผันผวน แนวรับ 1493 / 1480 จุด แนวต้าน 1513 / 1520 จุด แนะนำ เก็งกำไร TOP MINT AWC ทางเทคนิคเกิดสัญญาณดีดกลับ (พบ แท่งเขียวยาว) ช่วยหนุนดัชนีฯ ภาพใหญ่ยังคงผันผวนในกรอบ 1476-1530 จุด ปัจจัยบวก คือ ไทยเตรียมเริ่มต้นทยอยฉีดวัคซีนต้าน COVID-19 ให้ประชาชนปลายเดือนนี้ หลังได้รับวัคซีนล็อตแรกจาก SINOVAC และ AstraZeneca ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ รายงานผลกำไรบจ. รายงานตัวเลข 4Q20E GDP เยอรมนี

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้

        1) ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปอีกระยะหนึ่งก่อนที่จะมีความคืบหน้ามากขึ้น โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัว 6% ในปีนี้ หลังจากมีความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนในวงกว้างขึ้น

        2) การส่งสัญญาณเตรียมผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของ UK (และอีกหลายประเทศยุโรปในอนาคต) ช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและการท่องเที่ยวในระยะยาว (+กลุ่ม Vaccine Plays)

        3) SINOVAC ส่งมอบวัคซีนล็อตแรกวันนี้ จานวน 2 แสนโดส จากทั้งหมด 2 ล้านโดส เป็นสัญญาณของการเริ่มต้นฉีดวัคซีน เพื่อป้องกัน COVID-19 เพื่อให้เกิด Herd Immunity ในไทย (+กลุ่ม Vaccine Plays)

        4) สภาล่างฯ เริ่มพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 2 วันที่ 24-25 ก.พ. และอาจมีความเสี่ยงล่าช้า หากไม่สามารถอนุมัติได้ทัน ก่อนปิดสมัยประชุมสุดสัปดาห์นี้

        5) รายงานผลกำไรบจ.ไทย จับตา CPF BEM HANA IVL LH STEC PLANB คาดส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นรายตัว

เศรษฐกิจวันนี้ USA-การแถลงของประธานเฟด ต่อคณะกรรมาธิการการเงินของสภาล่าง / Germany-4Q20E GDP Growth ครั้งสุดท้าย คาดเติบโต +0.1% QoQ, -3.9% YoY (Vs 3Q20 +8.5% QoQ, -4% YoY / USA-new home sales เดือน ม.ค. คาด +2.1% MoM (Vs เดือน ธ.ค. +1.6% MoM) / Earnings-Lowe’s, NVIDIA, Viacom, TJX

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดบวกแรง: ตลาดหุ้นไทยขึ้นไปสูงสุดที่ 1506.94 จุด ก่อนอ่อนตัวภาคบ่ายมาปิดที่ระดับ 1500.61 จุด +22.47 จุด +1.52% วอลุ่ม 8.61 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มขนส่งและสาธารณูปโภค +3.41% ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ +3.15% พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ +3.02% หุ้นบวก >4% AOT MINT IVL CPN TOP AWC CRC PSL CENTEL SABUY AAV SPRC KWM AMATA SAPPE ADB TEAM SKN SPVI หุ้นร่วง >4% KISS TQR ZIGA SUN ALL TIPCO ALT RBF ECL SONIC

+/- ตลาดหุ้นโลกปิดแบบผสมผสาน: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดคละ DJ +0.05% (+15.66 จุด) S&P500 +0.13% Nasdaq -0.50% ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มที่ได้กำไรจากการเปิดเศรษฐกิจ เพราะความคืบหน้าในการกระจายวัคซีน ซึ่งจะช่วยให้รัฐสามารถคลายข้อจำกัดทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ได้ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดคละเช่นกัน DAX -0.61% CAC40 +0.22% FTSE +0.21% เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มต่าง ๆ ออกมา โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

+/- น้ำมันปิดคละ แต่ทองคำร่วง: ราคาน้ำมันฟื้นตัวแรง WTI –USD0.03 ปิดที่ USD61.67/บาร์เรล Brent +USD0.13 ปิดที่ USD65.37/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนต่างจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบและสถานการณ์การผลิตน้ำมันในรัฐเท็กซัสที่ยังคงได้รับผลกระทบจากอากาศที่หนาวเย็นจัด ขณะที่ราคาทองคำลดลง –USD2.5 ปิดที่ USD1,805.9/ออนซ์ จากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากประธานเฟดแสดงมุมมองเป็นบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ประเด็นสำคัญ

+ UK: อังกฤษ เผยแผนคลายล็อกดาวน์ 4 ขั้นตอน ตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. - 21 มิ.ย. ผ่านการเปิดโรงเรียน เปิดร้านค้าปลีกจำหน่ายสินค้าไม่จำเป็น การรวมตัวกันภายนอกได้มากถึง 30 คน การเปิดธุกิจไนท์คลับ เป็นต้น

- ดุลการค้าไทยเดือน ม.ค. ต่ำคาด: โดยรายงานขาดดุลการค้า -USD0.202bn (Vs คาด +USD0.07bn และเดือน ธ.ค. +USD0.96bn) เป็นผลจากการส่งออกเติบโตน้อยกว่าคาด เป็น +0.35% YoY (Vs คาด +0.6% ถึง +2.7% YoY และเดือน ธ.ค. +4.7% YoY) และการนำเข้า หดตัว -5.24% YoY (Vs คาด -8.3% YoY และเดือน ธ.ค. +3.62% YoY)

+ การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 ของรัฐสภา (24-25 ก.พ.): มีสาระสำคัญ คือ การให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ มายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทั้งนี้ หากผ่านวาระ 2 แล้วจะต้องพักไว้ 15 วัน ถึงจะมีการนัดประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อลงมติวาระ 3 ต่อไป

- Ex-Dividend: การขึ้นเครื่องหมาย XD ของบจ. วันนี้ จะมีผลกระทบต่อดัชนีฯ -0.95 จุด นำโดย GLOBAL (ปันผลเป็นหุ้น 22:1 และเงินสด 0.185 บาท) SCCC (9 บาท) JASIF (0.25 บาท) LPN (0.40 บาท) IMPACT (0.20 บาท) BOL (0.115 บาท)

+ กลุ่มสถาบันการเงิน: ธปท. ย้ำระบบธนาคารพาณิชย์ไทยแข็งแกร่ง ณ สิ้นปี 2020 มี BIS Ratio สูงถึง 20.1%, อัตราส่วนเงินสำรองต่อหนี้เสียสูงถึง 149.2%

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: OR TASCO RCL

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: TOP MINT AWC

Derivatives: เปิดสถานะ Long S50H21 เมื่ออ่อนตัวที่ 920 จุด หรือเปิด Short ที่ 935 จุด (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)