พปชร.เดิมพัน'อาญาสิทธิ์' ภารกิจล้มเสาไฟฟ้าเมืองคอน

"อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ” ยังได้รับความไว้วางใจจากพรรคพลังประชารัฐ ให้ชิงตำแหน่งส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 อีกครั้ง ถือเป็นการให้โอกาสสวมเสื้อตัวเดิมลงล้างตากับพรรค“ประชาธิปัตย์” ในพื้นที่ ที่เรียกว่าการแข่งขันดุเดือดที่สุดสนามหนึ่ง ประกอบด้วย 4 อำเภอได้แก่ เฉลิมพระเกียรติ ชะอวด จุฬาภรณ์ และพระพรหม

แม้การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว “อาญาสิทธิ์” จะปราชัยให้กับ เสี่ยคึก “เทพไท เสนพงศ์” จาก“ประชาธิปัตย์” ที่ได้ 33,310 ส่วนตัวเขากวาดมาได้ถึง 28,742 คะแนน ห่างเพียง 4,568 คะแนนเท่านั้น มาครั้งนี้ จึงไม่มีข้อสงสัยว่าทำไมพลังประชารัฐถึงส่ง “อาญาสิทธิ์” โดยไม่สนกระแสที่ถูกทวงถามสปิริต และมารยาทการเมืองจากประชาธิปัตย์ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล

“อาญาสิทธิ์” มีลุ้นเข้าวินสูงลิบ ด้วยพื้นเพเป็นคนในพื้นที่ อ.จุฬาภรณ์ จึงมีเครือข่ายพอสมควรและก่อนจะลงสมัคร ส.ส. เขามีตำแหน่งเป็น “นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ” อีกด้วย

จากเส้นทางข้าราชการ อดีตนายอำเภอ เขาเบนเข็มมุ่งสู่สนามการเมืองระดับชาติ เพื่อเป็นผู้แทนราษฎร โดยไม่มีเส้นสาย เขาเริ่มต้นด้วยการส่งประวัติการทำงาน ไปสมัครกับพรรคพลังประชารัฐ และในที่สุดฝันขั้นแรกก็เป็นจริง เมื่อทางพรรคตัดสินใจเลือกเขาลงสู้ศึกเลือกตั้งในนามพรรคครั้งแรก และครั้งนี้เขาก็ได้โอกาสเป็นครั้งที่สอง

บวกกับความนิยมของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ที่ยังขายได้ในพื้นที่ โดยมีไม้เด็ดคือมาตรการช่วยเหลือผ่านหลายโครงการเยียวยาของรัฐบาล

สโลแกนที่เขาใช้หาเสียง “คนติดดิน เข้าใจท้องถิ่น มีประสบการณ์” และอิงกับพรรคที่เป็นแกนนำรัฐบาล "สนับสนุนรัฐบาล สนับสนุน อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ นำโดยพรรคพลังประชารัฐ ส่งมอบนโยบายช่วยเหลือพี่น้องประชาชนยามลำบาก และอีกหลายนโยบายเพื่อพี่น้องประชาชนเพราะทุกคนคือคนไทย เราจะดูแลกัน เราไม่ทิ้งกัน"... จึงถือเป็นแต้มต่อได้ไม่น้อย

28,742 คะแนนที่ได้มาในครั้งก่อน “อาญาสิทธิ์” ใช้วิธีตระเวนเคาะประตูบ้านขอคะแนน หรือแม้แต่ใช้ความสามารถและความชอบของตัวเองในการแปลงเนื้อร้อง เพลงลูกทุ่ง เพื่อหาเสียงก็ทำมาแล้ว

ในเมื่อแชมป์เก่าอย่าง “ประชาธิปัตย์” ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ “แพ้ไม่ได้” “อาญาสิทธิ์” จึงต้องเผชิญโจทย์หิน ดังนั้นศึกระหว่างตระกูลการเมืองในพื้นที่จึงถูกวางลงชั่วคราว โดยหันมาจับมือกัน รวมพลังและคะแนนหวังโค่นแชมป์ โดย “สนั่น พิบูลย์” อดีตผู้สมัครเลือกตั้ง เขต 3 นครศรีธรรมราช จาก “พรรคภูมิใจไทย” ที่เข้าป้ายเป็นอันดับ 3 กวาดมาได้ 15,490 คะแนน ในการเลือกตั้งใหญ่ 24 มี.ค.2562 สนามเดียวกัน ได้ประกาศตัวสนับสนุน “อาญาสิทธิ์” เต็มที่เพราะมีศักดิ์เป็นเครือญาติกัน

“อาญาสิทธิ์” บอกว่า เขามีความตั้งใจมาก เมื่อมีโอกาสจะทำให้ดีที่สุด ถึงเวลาต้องทำแบบจริงจัง เพื่อแก้ปัญหาชาวบ้าน

จากบทบาท “นายอำเภอ” ที่มีวีรกรรมเป็นที่พูดถึงในเรื่องการทำงานแบบถึงลูกถึงคน สมบุกสมบัน คลุกคลีใกล้ชิดชาวบ้าน อย่างเช่นตอนเป็น “นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ” เกิดกรณีโจรขโมยวัวชาวบ้าน 8 ตัว “อาญาสิทธิ์” และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พากันเดินเท้าตามวัวกลับมาคืนให้ชาวบ้านจนครบ หรือสมัยที่เป็นนายอำเภอเขาชัยสน จ.พัทลุง เขาก็นำเจ้าหน้าที่ลุยจับแก๊งปล่อยเงินกู้โหด ที่เอาเปรียบชาวบ้าน เพราะ “ไม่ชอบเห็นคนเอาเปรียบชาวบ้าน”

ล่าสุด ระหว่างลงพื้นที่ มีคำถามต่อเขา ถึงเหตุผลที่ทิ้งสถานะนายอำเภอ ตำแหน่งที่มีเกียรติ มีความมั่นคงสูง มีแต่คนไหว้และเคารพ แต่กลับลาออกมาลงซ่อม ส.ส.ที่มีวาระแค่ 2 ปีทำไม และยังต้องตระเวนไหว้คนที่ไม่เคยรู้จักทุกระดับชั้น

เขาได้อธิบายด้วยคำตอบว่า “มันเป็นความชอบส่วนตัวของพี่ พี่เป็นคนไม่ชอบอยู่นิ่ง มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตั้งแต่เป็นเจ้าหน้าที่ตอนอยู่กรุงเทพฯ พี่ก็ทำได้แค่ 2 ปี พี่เลยมาสอบเป็นปลัดปกครอง จากนั้นพี่ก็มาเป็นเลขานุการรองผู้ว่านครศรีฯ ทำให้พี่ได้รู้ปัญหาในจังหวัดคอนทุกพื้นที่ เพราะต้องช่วยกลั่นกรองเอกสารก่อนถึงรองผู้ว่าฯ พี่เลยต้องลงพื้นที่จริงทุกที่ เลยเห็นว่าชาวบ้านยังมีปัญหาต้องช่วยแก้ไขมากมายนัก แต่พี่ก็ทำได้แค่ยื่นเอกสารไปตามขั้นตอน ไม่สามารถผลักดันอะไรได้”

“พี่เลยคิดว่า สักวันพี่จะมีบทบาทมากกว่านี้ให้ได้ เลยตั้งใจสอบเป็นนายอำเภอจนได้ ในช่วงที่พี่เป็นนายอำเภอ ก็แก้ปัญหาได้ในขอบเขตอำเภอที่พี่อยู่ แต่มีปัญหาหลายๆ อย่าง พี่ยังช่วยแก้ให้ไม่ได้ หรือไม่ทันใจคนในพื้นที่ เพราะพี่เป็นแค่นายอำเภอ ต้องทำตามขั้นตอนหลายอย่างเช่น ยื่นเรื่องถึงรองผู้ว่า ให้ตรวจสอบ ถ้าผ่านจึงจะยื่นถึงปลัดจังหวัดตรวจสอบ จึงจะถึงผู้ว่าฯ ผู้ว่าฯ ก็ต้องตรวจสอบ และอาจจะเรียกประชุมก่อนว่า เรื่องนั้นเหมาะสมหรือไม่ ถ้าเห็นว่าไม่เหมาะสมก็จบเพียงที่ผู้ว่าฯ แต่ถ้าเรื่องนั้นผ่านผู้ว่าฯ แล้ว ก็ต้องส่งต่อให้คณะรัฐบาล ซึ่งมันยุ่งยากหลายขั้นตอน”

“พี่จึงคิดว่า พี่เคยลงพื้นที่ในจังหวัดคอนมาทุกอำเภอแล้ว เห็นปัญหามาหมดแล้ว ปัญหาต่างๆจะแก้ได้เร็วที่สุดก็ต่อเมื่อ พี่ได้ส่งเรื่องให้คณะรัฐมนตรีจากมือพี่เอง พี่เลยคิดว่า การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่สุดแล้ว ที่พี่พอจะทำได้ พี่เลยตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนายอำเภอเพื่อลงเลือกตั้งครับน้อง”

ครั้งหนึ่งเขาขึ้นปราศรัยบนเวที สนามหน้าตลาดโกส้อง ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม หวังสะท้อนไปถึงพฤติกรรม(พรรค)คู่แข่ง โดยให้คำมั่นว่า “หากชนะการเลือกตั้ง รับรองว่าจะเป็น ส.ส.ของประชาชนที่ดี มีคุณภาพ ที่สำคัญจะไม่ทำตัวเหมือน ส.ส.พรรคเก่าแก่ ที่ได้รับเลือกแล้วหายตัวไป เพิ่งมาโผล่ช่วงหาเสียงเลือกตั้งนี้เอง”

เป็นความตั้งใจใช้ วาทกรรมปลุกคนเมืองคอนให้คิดเปลี่ยนแปลง เพราะในขณะนั้นทัพหาเสียงของ “พลังประชารัฐ” พุ่งเป้า ต้อง “ล้มเสาไฟฟ้าให้ได้” โดยเฉพาะในนครศรีธรรมราช เพราะในอดีตที่ผ่านมา พื้นที่นี้แทบจะผูกขาด ส.ส.พรรคเก่าแก่มาโดยตลอด จนถูกเปรียบว่า ต่อให้ส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะ ทั้งที่ไม่เคยมีผลงานอะไรให้ชาวบ้าน จนชาวบ้าน “หลาบแล้ว” ต้องสั่งสอนผ่านการเลือกตั้ง

โอกาสครั้งที่สองของ “อาญาสิทธิ์” เขาจะล้มแชมป์เก่า โค่นเสาไฟฟ้าในพื้นที่ได้สำเร็จหรือไม่ มีลุ้นอย่างยิ่ง

เมื่อ “พลังประรัฐ” ทุ่มทุกสรรพกำลัง เตรียมยกทัพหลวงลุยพื้นที่อย่างไม่เกรงศักดิ์ศรีพรรคร่วมรัฐบาลอย่างประชาธิปัตย์