‘EA’จ่อส่งโปรดักส์ EVตัวใหม่ บุกตลาด

‘EA’จ่อส่งโปรดักส์ EVตัวใหม่ บุกตลาด

“อีเอ” เผยปี 64 ตั้งเป้ารายได้เติบโตจากธุรกิจ EV ที่ 20% หลังโรงงานเดินเครื่องเดือนมี.ค.-เม.ย.นี้ พร้อมเตรียมออกโปรดักท์ใหม่สู่ตลาดอีกเพียบ แย้มตลาดโลจิสติกส์น่าสนใจ เหตุใช้รถยนต์ในการขนส่งมากสุด

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA กล่าวในงานสัมมนา Reinventing Thailand 2021 ว่า ในปีนี้จะเป็นปีของการเก็บเกี่ยวการลงทุนในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) แบบมีนัยสำคัญ โดยคาดรายได้เติบโตราว 20% ของรายได้รวม สอดรับกับปีนี้บริษัทจะมีโปรดักท์ใหม่ๆ ออกมาสู่ตลาดมากยิ่งขึ้น หลังโรงงานประกอบแบตเตอรี่ระยะแรก ขนาด 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงแล้วเสร็จมี.ค.-เม.ย. นี้ ซึ่งขยายโอกาสเติบโตธุรกิจจากการนำแบตเตอรี่มาใช้ในการผลิตทั้งในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า และเรือไฟฟ้า

สำหรับแนวโน้มตลาด EV ยังเติบโตได้อีกมาก โดยแบ่งออกเป็นการเติบโต 2 ทาง คือ 1.บนตลาดที่มีการเติบโตทุกๆ ปี และ 2.ตลาดเดิมที่มีคนต้องการที่จะเปลี่ยน โดยเฉพาะตลาดโลจิสติกส์ที่ต้องใช้รถยนต์ในการขนส่งจำนวนมาก ประกอบกับการเติบโตของอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซที่ก้าวกระโดด ซึ่งอนาคตกลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้าออนไลน์อาจจะต้องเปลี่ยนรถขนส่งสินค้าออนไลน์น้ำมันมาเป็นรถไฟฟ้าก็ได้ เนื่องจากเป็นเทรนด์ของโลก

“เรามองว่าโลกพร้อมจะเปลี่ยนแปลงเสมอ ถ้าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ทั้งในแง่ของค่าครองชีพ ความสะดวกสบาย และทันสมัย ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าก็ถือเป็นการตอบโจทย์ดังกล่าว”

จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ บริษัทมีการปรับตัวในแง่ธุรกิจได้รวดเร็ว ซึ่งเห็นได้จากที่ผ่านมาอยู่ในอุตสาหกรรมเกิดใหม่เสมอ อย่าง ธุรกิจพลังงานทดแทนแสงอาทิตย์ (โซลาร์) พลังงานลม ถือเป็นผู้ประกอบการรายแรกๆ ที่เข้าลงทุนซึ่งในสมัยนั้นเมืองไทยยังไม่ค่อยมีคนรู้จักพลังงานทดแทน

ต่อมาในเฟส 2 บริษัทมองการลงทุนในธุรกิจที่อยู่ในกระแสของโลกคือ EV ซึ่งศึกษาตั้งแต่ระบบกักเก็บพลังงาน (แบตเตอรี่) จากนั้นต่อยอดมาถึงธุรกิจ EV ที่ตอนนั้นทุกคนยังไม่รู้จักและบอกว่าธุรกิจ EV อีกนานกว่าจะเกิดขึ้น แต่บริษัทกลับมองว่ายังไงทิศทางก็ต้องไปรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแน่นอนจึงเริ่มลงทุนเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา

ดังนั้น ในปีนี้จะเป็นการนำจิ๊กซอว์ทั้งหมดที่บริษัทลงทุนไปทั้งหมดเมื่อ 3-4 ปีก่อน นำมาประกอบเข้าด้วยกัน ถือเป็นอีกก้าวของบริษัทหลังจากที่ผ่านมานักลงทุนจะรู้จักอีเอแค่บริษัทที่ทำธุรกิจพลังงานโรงไฟฟ้า ซึ่งผลประกอบการจะเติบโตตามโรงไฟฟ้าที่แล้วเสร็จปีละ 1 แห่ง แต่ปีนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่บริษัทจะมีรายได้จากธุรกิจใหม่เข้ามาเสริม และ EV ก็จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นตามเทรนด์โลกในปัจจุบันที่ทุกประเทศเริ่มตื่นตัวกันมากในการรักษ์โลก