อุตสาหกรรม ถอน ร่างกม.คุมเขตเศรษฐกิจพิเศษ

อุตสาหกรรม ถอน ร่างกม.คุมเขตเศรษฐกิจพิเศษ

อุตสาหกรรมยอมถอนร่าง กม.คุมเขตเศรษฐกิจพิเศษ หลังทั้งประเทศหลังกฤษฎีกา สศช. ล้มกระดานไม่เอาด้วยให้ใช้ร่างระเบียบสำนักนายกฯ เดิมไปก่อน และอนาคตอาจขยายกฎหมายของอีอีซีมาแทน เพื่อดูแลเขตศก.ทั่วประเทศตามแผนรัฐบาล

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้( 23 ก.พ.) เห็นชอบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอให้ถอนร่างพ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งเป็นกฎหมายแม่ที่รัฐบาลเคยตั้งใจจะผลักดันออกมาใช้กับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทั่วประเทศไทย

                หลังจากทางสำนักงานกฤษฎีกา ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ปัจจุบันการขับเคลื่อนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษพื้นที่ต่าง ๆ สามารถใช้กฎหมายเดิมคือ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ.2564 จึงยังไม่มีความจำเป็นต้องตรากฎหมายฉบับขึ้นขึ้นมาโดยที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณาแนวทางตามมติครม.เดิมต่อไป

โดยสศช.ยังเคยรายงานครม.รับทราบกรอบแนวคิดการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในระดับพื้นที่ภาคจำนวน3พื้นที่ คือ พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ (เอ็นอีซี) ,พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (เอ็นอีอีซี) และพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (เอสอีซี) ซึ่งจะเชื่อมโยงกับพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี และพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน โดยในระยะเริ่มต้นได้จัดทำเป็นร่างระเบียบสำนักนายกฯ ไว้แล้ว และมีการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือ กพศ. ไว้รองรับแล้ว

                อย่างไรก็ตามในระยะยาวคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่า สามารถปรับปรุงแก้ไขพ.ร.บ.เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561ให้ครอบคลุมเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษอื่น ๆ ทั่วประเทศได้ นอกเหนือจากการแค่ครอบคลุมพื้นที่อีอีซี จึงเห็นว่า ไม่มีความจำเป็นต้องตรากฎหมายออกมา แต่ถ้าทำไประยะหนึ่งแล้ว จนทราบเป้าหมาย ทิศทาง และปัญหาอุปสรรคในการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่ชัดเจนแล้ว หากยังมีความจำเป็นต้องมีหรือปรับปรุงแก้ไขกฎหมายใด ก็ค่อยมาพิจารณาปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไปได้

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า การออกกฎหมายฉบับนี้ ที่ผ่านมามีข้อสงสัยจากหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะ สศช. และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งเห็นตรงกันว่า ไม่มีความจำเป็นต้องยกร่างกฎหมายขึ้นมาใหม่ให้มีเพิ่มขึ้นจากกฎหมายฉบับเดิมเดิมที่มีอยู่แล้ว เพราะสามารถปรับปรุงกฎหมายเดิมที่มีอยู่ได้ ซึ่งเรื่องนี้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ลงมาดูกับตัวเอง โดยสั่งกระทรวงอุตสาหกรรม รีบถอนร่างกฎหมายออกทันที โดยทำเรื่องเสนอครม.เห็นชอบถอนกฎหมายฉบับนี้ ที่เคยผ่านการเห็นชอบจากครม.มาแล้ว ซึ่งกรณีลักษณะนี้มีให้เห็นไม่ค่อยบ่อยนัก