วัคซีนโควิดปลุกกำลังซื้ออสังหาฯ

ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เผยผลโควิด-19 กระทบเศรษฐกิจ คนชะลอซื้ออสังหาฯ หวังวัคซีนป้องกันโควิดช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคฟื้น
ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เผยผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดที่อยู่อาศัยในไทย และผลสำรวจจากเว็บไซต์ในเครือ พร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป ในสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ระบุว่า กำลังซื้อผู้บริโภคในอาเซียนจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดฯ อย่างต่อเนื่อง แต่ความต้องการที่อยู่อาศัยยังมีแนวโน้มเติบโตในอนาคตแน่นอน เห็นได้จากแผนการใช้จ่ายของผู้บริโภคกลุ่ม มิลเลนเนียล หรือ Gen Y มากกว่าครึ่งในประเทศสิงคโปร์69% มาเลเซีย 59%อินโดนีเซีย 77%และไทย 59%ที่ยังคงให้ความสำคัญไปที่การออมเงินเพื่อซื้อบ้านใน 1 ปีข้างหน้า
จากผลสำรวจล่าสุดในภูมิภาคยังเผยให้เห็นว่าคะแนนความพึงพอใจต่อสภาพตลาดที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคชาวไทย'ลดลง'อย่างต่อเนื่องจากที่เคยแตะ 66% ในปี 2562 ปัจจุบันเหลือเพียง 48% ถือเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ ในอาเซียนมีทิศทางเติบโตขึ้นลงสลับกันในช่วงที่ผ่านมา สาเหตุหลักที่ทำให้คนไทยไม่พึงพอใจต่อสภาพตลาดที่อยู่อาศัยมากขึ้นมาจากผลกระทบของสภาพเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง 68% และมองว่าตลาดอสังหาฯ ไม่มีเสถียรภาพเพียงพอ 33% ซึ่งค่าเฉลี่ยของสองปัจจัยนี้สูงที่สุดเมื่อเทียบกับผู้บริโภคประเทศอื่น ในขณะที่อันดับสามมาจากการไม่สามารถหาที่อยู่อาศัยในทำเลที่ต้องการภายในงบประมาณที่มี 32%
และผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดที่อยู่อาศัยล่าสุดใน 4 ตลาดหลักของอาเซียน เผยมุมมองและเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคที่น่าสนใจ เมื่อต้องมองหาที่อยู่อาศัยท่ามกลางความท้าทายจากสภาพเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เป็นตัวแปรสำคัญ ผู้บริโภคส่วนใหญ่มองว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจและมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ จากภาครัฐมีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจซื้ออสังหาฯ ในเวลานี้
นอกจากนี้ วัคซีนป้องกันโควิด-19 ก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยดึงกำลังซื้อของผู้บริโภคให้กลับมาและส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้ ปัจจุบันสิงคโปร์ อินโดนีเซียเป็นประเทศที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปแล้ว ด้านมาเลเซียจะเริ่มโครงการฉีดวัคซีนในวันที่ 24 ก.พ. นี้ ขณะที่ไทยมีการยืนยันและเตรียมการขนส่งวัคซีนล็อตแรกไว้แล้ว ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายของผู้บริโภค
อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคไทย 56% ตัดสินใจชะลอการซื้อขายอสังหาฯ ช่วงนี้ออกไป เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดฯ เมื่อต้องเลือกซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัย ผู้บริโภคไทยยังคงให้ความสำคัญกับขนาดที่อยู่อาศัยเป็นหลัก ตามมาด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในสัดส่วนที่ไล่เลี่ยกัน 48% และ 44% ตามลำดับ ขณะที่ปัจจัยภายนอกโครงการจะพิจารณาจากทำเลที่ตั้ง และการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะมาเป็นอันดับต้น ๆ 54% และ 50% ตามลำดับ) โดยเหตุผลยอดนิยมในการตัดสินใจซื้อบ้านใหม่มาจากความต้องการพื้นที่ส่วนตัวถึง 47% ต่างจากชาวสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซียที่เลือกซื้อเพื่อลงทุนเป็นหลัก
โดยคนไทยส่วนใหญ่ 60% มองว่าอุปสรรคหลักเมื่อต้องขอสินเชื่ออสังหาฯ มาจากความไม่มั่นคงในอาชีพและรายได้ ซึ่งกว่าครึ่ง 52% หวังให้ภาครัฐออกมาตรการ/นโยบายลดดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านเพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยในเวลานี้
'เงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 500' เช็ค ธ.ก.ส. โอนเข้าบัญชี แนะขั้นตอนตรวจสอบง่ายๆ
สลด! 'ร.ต.อ.วิวัฒน์' เสียชีวิต ขณะปฎิบัติหน้าที่คุมม็อบ
ลงทะเบียน 'ม.33เรารักกัน' รับเงิน 4,000 หมดเขต 7 มี.ค.นี้
'พยากรณ์อากาศ' วันนี้ 'กรมอุตุนิยมวิทยา' เตือน 'อีสาน-ตะวันออก' ระวังพายุฤดูร้อน
คลังยังไม่สรุปแจกเงินเยียวยาลูกจ้างราชการ
ไทม์ไลน์ ม็อบ REDEM เผชิญหน้า ปะทะ ตำรวจ