หมอเกาหลีใต้ขู่ประท้วง 'แผนวัคซีนส่อป่วน'

หมอเกาหลีใต้ขู่ประท้วง 'แผนวัคซีนส่อป่วน'

หมอเกาหลีใต้ขู่ประท้วงต้านแผนยกเลิกใบประกอบโรคศิลป์ กลายเป็นความกังวลว่าแผนเริ่มฉีดวัคซีนอาทิตย์นี้อาจสะดุด

ตามที่เกาหลีใต้เล็งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชุดแรกจากบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในวันศุกร์ (26 ก.พ.) นี้ พร้อมตั้งเป้าฉีดให้ประชากรกลุ่มเสี่ยงสูง 10 ล้านคนภายในเดือน ก.ค.ซึี่งจะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้ภายในเดือน พ.ย. แต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สมาคมแพทย์เกาหลี (เคเอ็มเอ) ตัวแทนแพทย์กลุ่มใหญ่สุดประกาศว่าจะหยุดงานประท้วง ถ้าสภาผ่านกฎหมายยึดใบประกอบโรคศิลป์แพทย์ที่ถูกจำคุก

นายคิม แตฮา โฆษกเคเอ็มเอ แถลงว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ทำให้หมอธรรมดาผู้บริสุทธิ์ต้องถูกยึดใบประกอบโรคศิลป์และตกนรก เพราะอุบัติเหตุที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับงานของหมอ หรือเพราะความไม่มีความรู้ด้านกฎหมาย

นายชเว แต-ซิป ประธานเคเอ็มเอ เรียกร่างกฎหมายฉบับนี้ว่า “โหดร้าย” หากออกเป็นกฎหมายจะทำลายความร่วมมือที่หมอมีกับรัฐบาลในช่วงที่เกิดภัยคุกคามจากไวรัสและกำลังจะมีโครงการฉีดวัคซีน

อย่างไรก็ตาม เคเอ็มเอยังไม่ประกาศวันหยุดงานที่แน่ชัด แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงย่อมส่งผลให้การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ล่าช้าออกไป ในช่วงที่ทางการพยายามจัดสรรบุคลากรทางการแพทย์ ไปยังศูนย์ฉีดวัคซีน 250 แห่ง และคลินิก 10,000 แห่งทั่วประเทศ

ด้านกระทรวงสาธารณสุขแถลงว่า ความไม่ลงรอยกันเรื่องร่างกฎหมายไม่ควรเกิดขึ้นในช่วงที่กำลังจะฉีดวัคซีน สมาคมแพทย์เข้าใจผิดในเนื้อหาสาระ สภาพยายามแก้ไขกฎหมายบริการทางการแพทย์ ที่ห้ามแพทย์ผู้กระทำผิดอาญารุนแรง เช่น ข่มขืน ฆาตกรรม ไม่ให้ทำอาชีพแพทย์

ส.ส.พรรครัฐบาลที่ผลักดันร่างกฎหมายประณามเคเอ็มเอว่า จับประชาชนเป็นตัวประกัน เพื่อรักษาภูมิคุ้มกันต่อการกระทำผิดอาญาให้กับพวกตนเอง

ทั้งนี้ เคเอ็มเอที่มีสมาชิกเกือบ 140,000 คน ขัดแย้งกับรัฐบาลเรื่องนโยบายการแพทย์มานานแล้ว

ปีก่อนโรงพยาบาลหลายแห่งไม่มีแพทย์ทำงานช่วงโควิดระบาด เพราะแพทย์สมาชิกเคเอ็มเอพากันผละงานนานหลายสัปดาห์ต้านแผนเพิ่มจำนวนนักศึกษาแพทย์ สร้างโรงเรียนแพทย์ ลดการคุ้มครองประกัน และเพิ่มการแพทย์ทางไกล

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวกระตุ้นให้ชาวเกาหลีหลายแสนคนต้องเข้าชื่อถึงประธานาธิบดี ขอให้ลงโทษแพทย์ ผลสำรวจความคิดเห็นพบว่า ผู้ให้ข้อมูล 58% ไม่เห็นด้วยกับการนัดหยุดงานของแพทย์ แต่ยังไม่มีการสำรวจความคิดเห็นเรื่องการเผชิญหน้ากันในขณะนี้