สหภาพร้องนายกฯ“เอ็นที”ปัญหาเพียบ

สหภาพร้องนายกฯ“เอ็นที”ปัญหาเพียบ

สหภาพฯกสทฯร้องหลังควบรวมเอ็นทีครบ 1 เดือนปัญหาเพียบ วอน“ประยุทธ์” ช่วยเร่งสาง ส่งหนังสือ 6 ข้อแจงยิบสารพัดปัญหาที่เจอ หวังช่วยลดการทำงานซ้ำซ้อน – เร่งสรรหาซีอีโอใหม่โดยเร็ว และเพิ่มจำนวนบอร์ดเอ็นทีเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

นายสังวรณ์ พุ่มเทียน อดีตประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บมจ.กสท โทรคมนาคม และกลุ่มผู้ติดตามการควบรวมกิจการ ระหว่าง กสท โทรคมนาคม และบมจ.ทีโอทียื่นหนังสือ เรื่องปัญหาที่พบหลังจากการควบรวมกิจการ กสท โทรคมนาคม และ ทีโอที เป็น บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จากัด (มหาชน) หรือ เอ็นที และขอให้เร่งรัดแก้ไขปัญหาโดยเร็ว ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ,พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ,นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง, นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)

       

        

ทั้งนี้ จากการติดตามในช่วงระยะเวลาดำเนินการประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา หลังมีการควบรวมเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2564 พบ 6 ประเด็นที่มีปัญหาแสดงถึงการควบรวมกิจการที่ไม่มีประสิทธิภาพ ได้แก่ 1.โครงสร้างองค์กร ที่มีขนาดใหญ่ ที่มีความแตกต่างของระดับ (ซี) ระหว่างพนักงานของ กสท โทรคมนาคม  และพนักงานของ ทีโอที ซึ่งมีการบริหารงานและปฏิบัติงานที่มีการทับซ้อนกันหลายกลุ่มธุรกิจ

2.คำสั่ง ข้อกำหนด ระเบียบ กฎเกณฑ์ และข้อปฏิบัติ เป็นเรื่องที่สำคัญ ที่ยังไม่มีความชัดเจนและล้าสมัย 3.การมีซีอีโอที่มาจากองค์กรที่มีบุคคลากรมากกว่า ทำให้การพิจารณา กำหนดนโยบายต่างๆ มุ่งเน้นไปที่องค์กรนั้นๆ มากกว่า ควรเร่งให้มีการสรรหา แต่งตั้งซีอีโอคนกลางตัวจริงให้ได้โดยเร็ว 4.ควรมีการแต่งตั้ง คณะกรรมการเพิ่มเติมเพราะปัจจุบันบอร์ดที่มีอยู่ 5 คนไม่เพียงพอต่อการกำกับดูแลและกำหนดนโยบาย

5.การปรับระบบไอทีที่สนับสนุนการให้บริการลูกค้า ตลอดจนระบบประมวลผล ปัจจุบันนี้ยังไม่มีการเชื่อมโยงระบบที่สมบูรณ์แบบ และ6.ขอให้มีการตรวจสอบการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา การบริหารทรัพยากรบุคคล ของ บริษัท เมอร์เซอร์ และ บริษัท เคพีเอ็มจี ที่ใช้เงินงบประมาณ 48.79 ล้านบาท และ บริษัทที่ปรึกษา ที่จัดทำโครงสร้างองค์กรและแผนธุรกิจ คือ บริษัท อีวาย และ บริษัท Prime street ที่ว่าจ้างจำนวน 72 ล้านบาท ให้มีความเหมาะสม

“ขณะนี้เอ็นทีถูกปรับลดระดับความน่าเชื่อถือจากสถาบันการเงิน และจากสินทรัพย์ที่ทั้งสององค์กรมีมูลค่าสูงถึง 300,000 ล้านบาท เงินสดสองหน่วยงานที่มีมูลค่าสูงถึง 36,700 ล้านบาท แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้นทำให้มีต้นทุนการทำงานที่เพิ่มสูงขึ้น ”