ฟรีโฟรทต่ำ –มาร์เก็ตแคปสูง รีเทิร์นกระทบหุ้นไทย

ฟรีโฟรทต่ำ –มาร์เก็ตแคปสูง  รีเทิร์นกระทบหุ้นไทย

ความร้อนแรงของหุ้นไอพีโอน้องใหม่แต่ไซต์ใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ทำให้นักลงทุนยังเกาะติดราคาหุ้นอย่างต่อเนื่อง

       รวมทั้งยังเป็นคู่เปรียบเทียบในเชิงตัวเลขทางการลงทุนเหมือนกับหุ้นประเด็นฮอตข้ามปี บริษัท เดลต้า  อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA

       เฉพาะแค่ราคาห้นของ OR  ที่ปรับขึ้นต่อเนื่องทำให้มีเสียงบ่น ขายหมู  รอช้อนจนเก้อ กันมากมาย  จากราคาซื้อขายที่ 18 บาท ราคาหุ้นสามารถขึ้นไปทำราคาสูงสุดที่ 36.50 บาท  เป็นการเพิ่มขึ้น  102

       ตามมาด้วยมูลค่ามาร์เก็ตแคปจากราคาไอพีโออยู่ที่ 208,000 ล้านบาท  ซึ่งสามารถได้สิทธิตีตั๋วฟรีเข้าคำนวณในดัชนี SET 50  และ SET 100  ได้ทันทีภายในวันที่ 17 ก.พ. 2564    แต่หลังจากเข้าทำการซื้อขายแล้วราคายังปรับตัวขึ้นต่อเลยทำให้มูลค่ามาร์เก็ตแคปขยับขึ้นมาเกือบ 4 แสนล้านบาท !!

       อ้างอิงจากการซื้อขายวันที่ 15 ก.พ. ราคาปิดที่ 34.00 บาท ปรากฎมาร์เก็ตแคปในวันดังกล่าวอยู่ที่ 394,470  ล้านบาท  ส่งผลทำให้อันดับหุ้น OR ใน SET 50  จากอันดับที่ 11 ขึ้นแซงหน้าหุ้นธนาคารใหญ่ SCB  และ KBNAK ไปจองอันดับอยู่ที่ 9 ทันที

       อย่างไรก็ตามแม้ว่า OR  จะเป็นหุ้นที่มีจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยมากที่สุดจากการจองถึง 530,000 ราย  แต่เมื่อเทียบกับอัตราการกระจายหุ้นไอพีโอของ OR มีสัดส่วนรายย่อยหรือ ฟรีโฟลท อยู่เพียง 24.52 ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่ไม่ได้สูงมากหนักในหุ้นที่มีขนาดใหญ่อย่างนี้   จนทำให้หุ้น OR มีน้ำหนักในดัชนีตลาดหุ้นไทยและมีผลต่อการขึ้นลงของดัชนีไปด้วย มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่  4.8-5 จุด ต่อดัชนี    

       กรณีดังกล่าวมีหุ้น DELTA ที่มีรูปแบบเดียวกันคือฟรีโฟรทน้อยแต่มีมูลค่ามาร์เก็ตแคปสูง มากจนขึ้นมาอยู่ที่  601,637  ล้านบาท  กลายเป็นหุ้นในอันดับที่ 3 ที่มีมาร์เก็ตแคปใหญ่รองเพียง PTT  และ AOT 

       และเป็นหุ้น DELTA ที่สร้างปรากฎการณ์ชี้นำตลาดหุ้นจากราคาที่ไต่ขึ้นไปราคาสูงสุดได้ถึง 804 บาท (11 ม.ค.)   พาให้ดัชนีหุ้นไทยบวกจนยืนที่ 1,535-1,540 จุดได้   ทั้งนี้ในมุมมองของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ทรีนีตี้  ระบุหุ้น OR  มีผลต่อดัชนี 4.8 จุด   DELTA มีผลต่อดัชนี 7.4 จุดและ PTT มีผล 2.5 จุด  สะท้อนถึงการขึ้นของดัชนีแบบกระจุกตัวมากๆ ได้กลับมาอีกครั้ง (Narrow breadth)

       ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่การคำนวณดัชนีของทางตลท.ยังคงยึดถือตามหลักเกณฑ์เดิมซึ่งก็คือวิธี Full market cap ซึ่งกลายเป็น Loophole ให้หุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่แต่มีฟรีโฟรทต่ำมีอิทธิพลต่อดัชนีได้ในระดับสูง

       กรณีของ OR ปัจจุบันนั้นมีความคล้ายคลึงกับตัว DELTA ก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก กล่าวคือมี Market cap ระดับแสนล้าน   ฟรีโฟรท 20-25%  และถูกคัดเลือกเข้าสู่ดัชนีสำคัญเช่น SET50, SET100, MSCI จนทำให้กองทุน Passive fund ทั้งหลายจำเป็นที่จะต้องเข้าซื้อหุ้นเหล่านี้อย่างหลีกเลี่ยงมิได้

       คาดปรากฏการณ์ดังกล่าวจะทำให้ตลาดหลักทรัพย์เล็งเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและอาจทำให้มีความเป็นไปได้สูงขึ้นที่ จะต้องเร่งรัดกระบวนการเปลี่ยนแปลงการคำนวณดัชนีไปเป็นวิธี Free float adjusted market cap ให้เร็วยิ่งขึ้น เพื่อลดผลกระทบที่จะมีต่อ Market participant ทุกภาคส่วน

      หากมีการใช้เกณฑ์ใหม่จริงจากการคำนวณล่าสุดพบว่า การปรับขึ้นมาของ OR อย่างก้าวกระโดดนั้น จะทำให้ตัวหุ้นมีโอกาสถูกลดน้ำหนักได้อย่างมีนัยสำคัญ จากราว 3.5% ของดัชนี SET50 ลงมาอยู่ที่ 1.9% ของดัชนี