‘KTC’รุกสินเชื่อมีหลักประกัน หนุนผลดำเนินงานโต

‘KTC’รุกสินเชื่อมีหลักประกัน หนุนผลดำเนินงานโต

เคทีซีรุกสินเชื่อมีหลักประกัน หลังเข้าถือหุ้นเคทีบีลีสซิ่ง หวังกระบวนการเสร็จพ.ค.นี้ พร้อมเร่งทำแผนธุรกิจภายใน3เดือน คาดหนุนรีเทิร์นเพิ่ม ในภาวะดอกเบี้ยลด มองเคทีซีปีนี้ลุ้นกำไรนิวไฮ

นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เปิดเผยว่า สำหรับการเข้าลงทุนในบริษัท กรุงไทย ลีสซิ่ง จำกัด หรือ เคทีบี ลีสซิ่ง (KTBL) โดยการเข้าถือหุ้น 75.05% เบื้องต้น คาดว่า กระบวนการจะแล้วเร็วในเดือนพ.ค. หากได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 8 เม.ย.นี้ ซึ่งขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเข้าไปประเมิน เพื่อกำหนดแผนงานและเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจ คาดว่าจะใช้เวลาราว 3 เดือนถึงจะเห็นภาพชัดเจนขึ้น

ทั้งนี้ การเข้าไปดำเนินธุรกิจ เบื้องต้นบริษัทคงเน้นทำตลาดรถยนต์ไปก่อน และการติดตามทวงหนี้เดิมไปก่อน โดยเน้นการเติบโตธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป และคาดว่าจะเห็นการขยายธุรกิจอื่นๆ เพิ่มเติมในระยะเวลาอันใกล้นี้

อีกทั้งมองว่า ตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ภายใต้เศรษฐกิจชะลอตัวเช่นนี้ ยังเห็นความต้องการในตลาดอยู่อีกมาก อีกทั้งการที่บริษัทหันไปโฟกัสสินเชื่อที่มีหลักประกันมากขึ้น จะช่วยลดความเสี่ยงในภาวะดอกเบี้ยลดและสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในอนาคต

"ส่วนแนวโน้มผลประกอบการเคทีซี ปีนี้มั่นใจว่า กำไรจะสูงกว่าปีก่อน แต่จะนิวไฮได้หรือไม่ ขึ้นกับการลงทุนที่กำลังดำเนินการ เราต้องหาไลเซนส์ให้ครอบคลุม เพราะบางธุรกิจไม่คุ้ม ยิ่งลดดอกเบี้ยรายได้หายเดือนละ 100 ล้านบาท 7 เดือนหายไป 700 ล้านบาท ดังนั้นต้องหารายได้อื่นมาช่วยให้รายได้ยังเติบโต”

นายระเฑียร กล่าวต่อว่า ด้านธุรกิจบัตรเครดิตปีนี้ คาดยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรโต 8% จากปีก่อนที่ -7.7% ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคลปีนี้เน้นหาลูกค้าใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าคุณภาพ ปัจจุบันมีฐานลูกค้า 8 แสนราย

ส่วนสินเชื่อจำนำทะเบียน “พี่เบิ้ม” ยังวางเป้าหมายที่1 พันล้านบาท ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล เชื่อว่าปีนี้จะลดลง จาก 1.8% ปีก่อน แม้รวมกับเคทีบีลีสซิ่ง ก็เชื่อว่าหนี้เสียอาจขยับขึ้นแต่ไม่น่ากังวล เพราะมีการตั้งสำรองไปแล้ว ส่วนงบลงทุนปีนี้ไม่รวม เคทีบี ลีสซิ่งคาดอยู่ที่ 400-500 ล้านบาท