ชาวไร่อ้อยเฮ ครม.เคาะราคาอ้อยขั้นสุดท้ายตันละ 833.22 บาท

ชาวไร่อ้อยเฮ ครม.เคาะราคาอ้อยขั้นสุดท้ายตันละ 833.22 บาท

ครม.เห็นชอบราคาอ้อยขั้นสุดท้ายตันละ 833.22 บาท ส่วนผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลอ้อยขั้น กำหนดไว้ที่ตันละ 357.09 บาทยันไม่ขัดกับข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลขั้นสุดท้าย ฤดูกาลผลิตปี 2562/63 เป็นรายเขต รวม 9 เขต โดยมีอัตราเฉลี่ยทั่วประเทศคือ ราคาอ้อยขั้นสุดท้าย ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส อัตราตันละ 833.22 บาท กำหนดอัตราขึ้น/ลง ของราคาอ้อย ต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส เท่ากับ 49.99 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอสส่วนผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลอ้อยขั้นสุดท้าย กำหนดไว้ที่ 357.09 บาทต่อตัน

ทั้งนี้ ราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้ายฤดูกาลผลิตปี 2562/2563 นี้ อยู่ในระดับสูงกว่าราคาขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ดังนั้น กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย จึงไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างตามมาตรา 56 พระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ.2527อย่างที่เคยเกิดขึ้นในฤดูการผลิตที่ผ่านมา ส่วนประเด็นข้อพิพาท เรื่อง น้ำตาลภายใต้องค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ)ระหว่างไทยกับบราซิลนั้น เรื่องนี้ไม่ขัดกับข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศแต่อย่างใด

สำหรับราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้ายที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอในครั้งนี้อยู่ในระดับสูงกว่าราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ดังนั้น กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายจึงไม่มีภาระที่จะต้องจ่ายเงินชดชยส่วนต่างตามมาตรา56แห่งพ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ.2527อย่างที่เคยเกิดขึ้นในฤดูการผลิตที่ผ่านมา

ส่วนประเด็นข้อพิพาท เรื่อง น้ำตาลภายใต้องค์การการค้าโลกระหว่างประเทศไทยกับบราซิล นั้นกระทรวงอุตสาหกรรมแจ้งว่า เรื่องนี้ไม่ขัดกับข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศแต่อย่างใดและโดยที่เรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามมาตรา55แห่ง พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ.2527ที่บัญญัติให้ภายหลังจากที่คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายให้ความเห็นชอบราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอแหนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้ายแล้ว ให้เสนอที่ประชุมครม. พิจารณา เมื่อครม.เห็นชอบแล้วให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

ก่อนหน้านี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ยอมรับว่า ฤดูการผลิตอ้อยปี63/64รัฐบาลมีนโยบายลดอ้อยไฟไหม้และต้องการให้เผาอ้อยหมดไปจากประเทศ โดยเตรียมมาตรการในการส่งเสริมตัดอ้อยสดเพื่อลดอ้อยไฟไหม้ คือลดอ้อยไฟไหม้เหลือ20% ด้วยมาตรการส่งเสริมให้ราคาอ้อยสดสูงกว่าอ้อยไฟไหม้ พร้อมสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ได้จัดหาเครื่องสางใบอ้อย ให้กับชาวไร่อ้อยสมาชิกกลุ่มเรียนรู้พัฒนาด้านอ้อยยืม จำนวน112เครื่อง โดยสามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายภาคที่1 – 4

กรณีมีนโยบายการช่วยเหลือจากภาครัฐ จะช่วยเหลือเฉพาะเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดเท่านั้น โดยคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย มีมติให้ความเห็นชอบหักเงินชาวไร่อ้อยที่ส่งอ้อยไฟไหม้ในอัตราตันละ30บาท จ่ายคืนให้กับชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดคุณภาพดีทุกรายเต็มจำนวนโดยคิดแยกเป็นรายโรงงาน และมีนโยบายที่จะผลักดันโครงการเงินช่วยเหลือชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสด ลดฝุ่น พีเอ็ม2.5เพื่อให้ชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดมีรายได้รวมมากกว่าชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยไฟไหม้ เป็นการจูงใจให้ชาวไร่อ้อยหันมาตัดอ้อยสดก่อนส่งโรงงาน