ผ่าขบวนการ‘ล้มกระดาน’ สรรหากสทช.ชุดใหม่

ผ่าขบวนการ‘ล้มกระดาน’  สรรหากสทช.ชุดใหม่

มี“พลเอก”ออกแรงล็อบบี้ ส.ว. อย่างหนัก เพราะคำนวณระยะเวลาแล้ว หากผ่านร่าง พ.ร.บ. กสทช. ฉบับ ส.ส. ทันที โดยที่ ส.ว. ไม่แก้ไข การบังคับใช้ พ.ร.บ. กสทช. ฉบับใหม่ จะเสร็จทันก่อนแต่งตั้งกรรมการ กสทช.ชุดใหม่

“ได้รับข้อมูลความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับการสรรหา กสทช.(คณะกรรมการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) ที่อยู่ในการพิจารณาขั้นสุดท้ายของ ส.ว. มีสัญญาณโดนแทรกแซงการสรรหา เนื่องจากผู้นำรัฐบาลพยายามผลักดันคนสนิทของตัวเองเข้าไปในคณะกรรมการ กสทช. ทั้งที่คุณสมบัติไม่เหมาะสม และไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการสรรหา” 

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.แกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาเปิดประเด็น เมื่อกระบวนการงวดเข้ามาทุกที

กระบวนการสรรหา กสทช. ทั้ง 7 ด้าน ถูกจับจ้องอีกครั้ง เมื่อมี “มือมืด” พยายามล้มกระดานการสรรหา

ภายหลัง “เต็งหาม” ที่ถูกวางตัวให้มาเฝ้าทรัพย์แสนล้าน มีปัญหาด้านคุณสมบัติ ชื่อจึงถูกสอยตกในชั้นกรรมการสรรหา เนื่องจากมีเงื่อนไขสำคัญว่า หาก “ผู้สมัคร” อยู่ หรือสังกัดในหน่วยงานที่ดำเนินโครงการเกี่ยวข้องกับ กสทช. จะถือว่า “ไม่ได้ไปต่อ” ทันที

ชื่อของ “ไก่อู” พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ที่วันนี้ยังกินตำแหน่ง “อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์” เป็นคู่สัญญาตรงกับ กสทช.ทั้งเป็นผู้ให้บริการ Mux และมีช่อง NBT ที่บริหารอยู่

ส่วนชื่อของ “บิ๊กอั๋น” พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ยังเป็น “บอร์ด กฟผ.” ที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม กับ กสทช. รวมทั้งเป็นคู่สัญญากับหลายโอเปอร์เรเตอร์โทรคมนาคมอยู่ด้วย

เงื่อนไขดังกล่าวทำให้ พล.ท.สรรเสริญและ พล.อ.สมศักดิ์ ที่ว่ากันว่าถูกวางตัวจาก “ตึกไทยคู่ฟ้า” ให้มารับภารกิจนี้ต้องตกสำรวจไป

สำหรับรายชื่อ 14 คนสุดท้ายที่ผ่านการคัดเลือกจากกรรมการสรรหาได้ส่งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาแล้ว จากนี้ก็ขึ้นอยู่กับ “พรเพชร วิชิตชลชัย” ประธานวุฒิสภา จะบรรจุวาระ เพื่อลงมติคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการ กสทช.ชุดใหม่ ในช่วงเวลาใด

แม้จะเข้าโค้งสุดท้าย ทว่า “มือมืด” ยังคงเดินเกมล้มกรรมการกสทช.ชุดใหม่ อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่ต้องการให้ใครเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับขุมทรัพย์แสนล้านที่อยู่ในมือมาหลายปี

ว่ากันว่า “มือมืด” รายนี้ มากบารมีพอสมควร ถือเป็นสายตรงผู้มีอำนาจ มีสถานะระดับ “พลเอก” เดินเกมพยายามล็อบบี้ ส.ว.ให้เร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.กสทช. เพราะหากมีผลบังคับใช้ การสรรหา กสทช.ชุดใหม่ ที่ยังคงดำเนินการอยู่ต้องโมฆะทันที และถึงแม้จะแต่งตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว กรรมการ กสทช.ชุดใหม่ ก็จะพ้นจากตำแหน่งทันทีเช่นกัน

ขณะที่ ส.ว.หลายคน ไม่เห็นด้วยที่จะให้ร่างพ.ร.บ. กสทช. ที่ผ่านการพิจารณาจาก ส.ส. ผ่านไปโดยไม่ได้แก้ไข เพราะมองว่ายังมีจุดอ่อนอยู่มาก แต่หาก ส.ว. เสนอแก้ไขก็ต้องเสียเวลาอีกอย่างน้อย 6 เดือน เพราะต้องตั้งคณะกรรมาธิการร่วม เพื่อแก้ไขมาตราที่ ส.ว. และ ส.ส. เห็นต่างกัน

“พลเอก”รายนี้ จึงออกแรงล็อบบี้ ส.ว. อย่างหนัก เพราะคำนวณระยะเวลาแล้ว หากผ่านร่าง พ.ร.บ. กสทช. ฉบับ ส.ส. ทันที โดยที่ ส.ว. ไม่แก้ไข การบังคับใช้ พ.ร.บ. กสทช. ฉบับใหม่ จะเสร็จทันก่อนแต่งตั้งกรรมการ กสทช.ชุดใหม่

สถานการณ์นี้ จึงทำให้ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทยออกมาดักทาง โดยระบุว่า “เพื่อนสนิทผู้นำรัฐบาล ที่เคยเป็นถึงอดีตรองนายกฯ ออกโรงรวบรวมคะแนนเสียงจาก ส.ว. เพื่อกดปุ่มสั่งให้ ส.ว. ผลักดันร่าง พ.ร.บ.กสทช. ที่มีเนื้อหาระบุว่าถ้าพ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ต้องสรรหากรรมการ กสทช.ชุดใหม่ ทำให้คณะกรรมการกสทช.ที่กำลังสรรหาอยู่นี้ จะทำหน้าที่ไม่เพียงไม่นาน เพื่อให้คนของตัวเองได้เข้าสู่กระบวนการสรรหารอบใหม่ที่จะเกิดขึ้นหลังกฎหมายบังคับใช้”

หลังจากนี้จึงต้องจับตาทุกความเคลื่อนไหวของ “พลเอก-ส.ว.” จะเดินเกมอย่างไรต่อ เพราะบรรดาคนอกหักที่ถูกสอยตกรอบ ต่างก็ลุ้น ร่างพ.ร.บ. กสทช. ฉบับใหม่ ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว ส่วน 14 คนที่เข้ารอบคัดเลือก ต้องการให้ ส.ว.โหวตคัดเลือกโดยเร็วเช่นกัน เพราะ กสทช. คือขุมทรัพย์แสนล้านที่ใครก็อยากเข้าไปนั่งบัญชาการ

การเคลื่อนเกมของ “ผู้มีอำนาจ” จึงต้องขบคิดให้รอบคอบ