นายกฯยันวัคซีนล็อตแรกมาปลายเดือนนี้ใช้เวลา3วันก่อนได้ฉีดเข็มแรก

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้าการจัดหาวัคซีน โควิด ว่า วันนี้ยืนยันจะมีการส่งมอบวัคซีนล็อตเเรก2แสนโดสในช่วงปลายเดือนนี้แน่นอน และเมื่อมาถึงประเทศไทยจะใช้เวลา3วันสำหรับเตรียมการฉีดเข็มแรก มีการกำหนดกลุ่มที่จะฉีดไว้แล้ว ซึ่งแต่ละชนิดของวัคซีนจะมีข้อบรรญัติไว้ ว่าควรฉีดกับคนกลุ่มไหน อายุเท่าไหร่ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบ โดยศบค.จะทยอยแจ้งให้ทราบต่อไป

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนวัคซีนล็อต2 จำนวน 8 แสนโดส และ ล็อต3 อีก 1 ล้านโดส จะทยอยตามมา ในส่วนนี้จะเป็นการฉีดเข็มที่2 ให้กับคนกลุ่มแรกและฉีดเข็มแรกให้คนส่วนที่เหลือ ซึ่งพิจารณาให้ครบทุกกลุ่ม ตนในเน้นย้ำไปให้ดูในพื้นที่เสี่ยงเป็นหลัก นอกจากบุคคลากรทางการแพทย์แล้ว ก็จะมีประชาชนกลุ่มเสี่ยง รวมถึงเเรงงานด้วย และพื้นที่ท่องเที่ยว โดยประชาชนที่ได้รับการฉีดไปแล้วก็จะปลอดภัยในระดับหนึ่ง ส่วนที่เหลือก็ต้องรอกว่าจะได้รับการฉีดครบ จึงขอให้ทุกคนใช้หน้ากากอนามัยและการเว้วระยะห่างไปด้วย ซึ่งจะเป็นการป้องกันได้ในระดับที่ดีพอสมควร

นายกฯ กล่าวว่า โดยวัคซีนของแอสตราเซเนก้า จำนวน26 ล้านโดสจะมาในเดือนจะมา พ.ค.-มิ.ย. และอีก35 ล้านโดสจะตามมา ซึ่งต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายในการฉีดให้ต่อเนื่อง โดยขณะนี้อย.ได้ขึ้นทะเบียนให้กับ แอสตราเซเนก้าแล้ว ส่วนของซิโนเเวค กำลังดำเนินการ ซึ่งจะทันก็ที่วัคซีนรอบแรกจะเข้ามา ขณะที่วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน กำลังดำเนินการขอขึ้นทะเบียน อยู่ระหว่างการส่งเอกสาร ซึ่งยังไม่ครบถ้วย ขณะที่โมเดน่าและไฟเซอร์ ก็ได้มีการพูดคุย แต่ยังไม่ได้ส่งเอกสารมา ทางไทยก็พร้อมหากจะร่วมมือกันตรงนี้ ไม่ได้ปิดกั้นใครทั้งสิ้นโดยทั้งหมดอยู่เคสที่เรียกว่า Emergency Use คือใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน สิ่งสำคัญคือต้องฉีดตามแผนการฉีดวัคซีนของรัฐ เอกชนก็สามารถจัดซื้อจัดหามาได้แต่ต้องเป็นไปตามแผนของรัฐเพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนที่มีรายได้สูง และผู้ที่ต้องการฉีดก่อน โดยรัฐบาลต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก