ลงทุนบิทคอยน์ ด้วยความระมัดระวัง

ลงทุนบิทคอยน์ ด้วยความระมัดระวัง

“บิทคอยน์” สกุลเงินดิจิทัลสกุลแรกของโลกที่เกิดจากเทคโนโลยีบล็อกเชน และได้รับความสนใจเข้ามาลงทุนเพื่อเก็งกำไรอย่างมาก การทำงานของสกุลเงินดิจิทัลอยู่บนระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้แม้ความปลอดภัยของระบบจะมีความน่าเชื่อถือ แต่ต้องระมัดระวังความผันผวนที่มีสูง

บิทคอยน์” สกุลเงินดิจิทัลสกุลแรกของโลกที่เกิดจากเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยมีการทำธุรกรรมการเงินระหว่างกันแบบไม่ต้องมีตัวกลางที่มาทำหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัย หรือตรวจสอบการส่งข้อมูลของผู้เกี่ยวข้อง การทำงานของสกุลเงินดิจิทัลอยู่บนระบบคอมพิวเตอร์ ส่งผลให้ผู้ครอบครองไม่สามารถจับต้องบิทคอยน์ได้เหมือนกับการจับต้องธนบัตรหรือเงินเหรียญที่ยังมีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจปัจจุบัน

ในแง่ความปลอดภัยของการใช้สกุลเงินบิทคอยน์ที่ทำงานบนระบบบล็อกเชน ซึ่งเป็นระบบที่มีเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่มากกระจายอยู่ทั่วโลก โดยระบบบล็อกเชนที่ต้องประมวลผลบนข้อมูลชุดเดียวกันบนคอมพิวเตอร์นับล้านเครื่อง จึงทำให้มีผู้เชื่อมั่นถึงความปลอดภัยในข้อมูลและการใช้งานสกุลเงินบิทคอยน์เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการมีผู้สนใจเข้าลงทุนเพื่อเก็งกำไรในบิทคอยน์เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การประกาศซื้อบิทคอยน์ของบริษัทเทสลา อิงค์ ซึ่งได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์สหรัฐเมื่อวันที่ 8 ก.พ.2564 มูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์ และเตรียมที่จะเปิดรับการชำระเงินด้วยบิทคอยน์สำหรับซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัท เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งภายหลังการประกาศดังกล่าวส่งผลให้ราคาบิทคอยน์ปรับสูงขึ้นทันที 15% มาอยู่ที่ 44,795.20 ดอลลาร์ หรือราคาประมาณ 1.32 ล้านบาท ถือเป็นการทำราคาแบบนิวไฮอีกครั้งของบิทคอยน์

ถึงแม้ในแง่ความปลอดภัยของระบบจะมีความน่าเชื่อถือ แต่ผู้ที่จะเข้ามาลงทุนในบิทคอยน์จะต้องระมัดระวังความผันผวนที่มีสูง ซึ่งจะเห็นได้ว่าราคาเลยร่วงลงหลังจากทำนิวไฮก่อนหน้านี้ที่ 42,000 ดอลลาร์ ราคาปรับลดลงมาอยู่ที่ 30,200 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 9 ม.ค.2564 และปรับขึ้นมาทำนิวไฮใหม่อีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากมีการประกาศของหลายบริษัทที่เข้าลงทุนบิทคอยน์และยอมรับการชำระด้วยบิทคอยน์ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามูลค่าของบิทคอยน์มีความผันผวนสูงมากตลอดช่วงที่ผ่านมา

มูลค่าของบิทคอยน์เป็นไปตามหลักอุปสงค์และอุปทาน แต่ผู้ต้องการครอบครองบิทคอยน์ควรเข้าใจว่าในปัจจุบันบิทคอยน์ไม่ได้เป็นสินทรัพย์ด้วยตัวของมันเองเหมือนสินทรัพย์ประเภทอื่น เช่น ทองคำ และไม่มีพื้นฐานใดรองรับมูลค่าบิทคอยน์เหมือนสกุลเงินของแต่ละประเทศ ซึ่งบิทคอยน์ถือเป็นระบบที่มีความซับซ้อนที่ผู้ลงทุนจะต้องศึกษาให้ดีและยอมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ในขณะที่ภาครัฐถึงแม้จะมีกฎหมายที่ควบคุมการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล แต่คงต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงในโลกดิจิทัลที่มีเกิดขึ้นตลอดเวลา