‘พญาโศก พิโยคค่ำ’ หนังไทยคว้ารางวัลจาก ROTTERDAM FILM FESTIVAL 2021

‘พญาโศก พิโยคค่ำ’ หนังไทยคว้ารางวัลจาก ROTTERDAM FILM FESTIVAL 2021

หนังไทยประกาศศักดาในเวทีระดับโลกอีกเมื่อ ‘พญาโศก พิโยคค่ำ’ ของผู้กำกับ ‘ไทกิ ศักดิ์พิสิษฐ์’ คว้ารางวัลขวัญใจนักวิจารณ์ (FIPRESCI Prize) จากเทศกาลภาพยนตร์ Rotterdam Film Festival 2021 มาครองได้

แม้ว่าทั่วโลกจะยังอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 และเทศกาลหนังนานาชาติน้อยใหญ่ยังต้องหันมาลดขนาดและปรับรูปแบบการจัดงานด้วยระบบออนไลน์ แต่วงการภาพยนตร์ไทยก็กลับคึกคักมีผลงานไปสร้างชื่อเสียงในเวทีต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องติด ๆ กัน

ล่าสุดภาพยนตร์อิสระไทยเรื่อง ‘พญาโศก พิโยคค่ำ’ หรือ The Edge of Daybreak ของผู้กำกับ ไทกิ ศักดิ์พิสิษฐ์ ก็ได้เข้าร่วมประกวดชิงรางวัล Tiger Award ในเทศกาลภาพยนตร์ Rotterdam Film Festival 2021 ที่ประเทศเนเธอแลนด์ โดยเทศกาลในปีนี้จัดงานในส่วนของการประกวดและฉายหนังใหม่ ๆ ในช่วงวันที่ 1-7 กุมภาพันธ์ และจะจัดงานเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปีของเทศกาลอีกครั้งระหว่างวันที่ 2-6 มิถุนายน ทั่วทั้งเมืองร็อตเทอร์ดัม

161310624885

สำหรับการประกวดรางวัล Tiger Award ประจำปีนี้ ก็มีหนังนานาชาติสดใหม่จำนวน 16 เรื่อง เข้าร่วมประกวด และมีตัวแทนจากประเทศไทยคือเรื่อง ‘พญาโศก พิโยคค่ำ’ มาร่วมลุ้นรางวัล และแม้ว่าในที่สุดจากการประกาศผลไปเมื่อช่วงดึกของคืนวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเวลาประเทศไทย หนังจากประเทศอินเดียเรื่อง Pebbles ของผู้กำกับ Vinothraj P.S. จะคว้ารางวัลใหญ่ไป

แต่ ‘พญาโศก พิโยคค่ำ’ ก็มิได้ถึงกับกลับบ้านมือเปล่า เพราะหนังสามารถคว้ารางวัลขวัญใจนักวิจารณ์หรือ FIPRESCI Prize จากสมาพันธ์นักวิจารณ์ภาพยนตร์นานาชาติ หรือ The International Federation of Film Critics มาครองได้พร้อม ๆ กับเสียงชื่นชมในมนต์สะกดอันลึกลับจากงานภาพและบรรยากาศที่อาศัยเทคนิคทางภาพยนตร์มานำเสนอภาพบาดแผลทางการเมืองในอดีตของประเทศไทยได้อย่างทรงพลัง

‘พญาโศก พิโยคค่ำ’ นับเป็นหนังขนาดยาวเรื่องแรกของ ไทกิ ศักดิ์พิสิษฐ์ หลังจากที่เขาเคยสร้างหนังสั้นแนวทดลองจนประสบความสำเร็จในเวทีการประกวดทั้งในและต่างประเทศมาแล้วหลายเรื่อง โดยในเรื่องนี้ ไทกิ ศักดิ์พิสิษฐ์ ได้นำเสนอด้วยภาพขาวดำคอนทราสต์จัด สะท้อนสภาพจิตใจของสมาชิกในครอบครัวที่ผู้นำมีเหตุให้ข้องเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางการเมืองระดับชาติ เพื่อแสดงว่าคนข้างหลังเหล่านี้จะต้องได้รับผลกระทบอย่างไร

161310627755

ไทกิ ศักดิ์พิสิษฐ์

โดยในส่วนของเรื่องย่อได้ระบุไว้ว่าอาศัยบรรยากาศทางการเมืองของไทยในช่วงปลายพุทธทศวรรษ 2510 และ พ.ศ. 2549 และจับเรื่องราวไปที่ พลอย บุตรสาวของไพลินและปราสาท ซึ่งเคยตกอยู่ในอาการโคมาหลังจมน้ำในคืนเดือนเพ็ญหลังจากที่บิดาของเธอหายสาบสูญไปนานกว่าสามปี ส่วนมารดาก็ประสบอาการทางจิตและได้ออกจากโรงพยาบาลจิตเวชเพื่อพักฟื้น คืนหนึ่งในปี พ.ศ. 2549 พลอยได้ร่วมรับประทานอาหารมื้อสุดท้ายกับสามีนักการเมือง ณ คฤหาสน์ใหญ่ริมน้ำ ก่อนที่ฝ่ายสามีจะลี้ภัยการเมืองไปในคืนนั้น

161310630888

161310632077

161310633156

อย่างไรก็ดี ในส่วนการเล่าเรื่องราวของหนังเรื่องนี้ ก็แทบจะไม่ได้มีเจตนาในการนำเสนอสถานการณ์ทางการเมืองที่เกี่ยวข้องอย่างตรงไปตรงมา หนังดำเนินเรื่องราวโดยแทบจะไร้บทสนทนาจนบางครั้งก็ไม่อาจรู้ได้ว่าใครเป็นใคร กำลังอยู่ ณ แห่งหนไหนและช่วงเวลาใด เนื่องจากผู้กำกับ ไทกิ ศักดิ์พิสิษฐ์ ต้องการใช้องค์ประกอบจากภาพและเสียง รวมถึงการจับจ้องใบหน้าและพฤติกรรมของนักแสดงมารังสรรค์บรรยากาศแห่งฝันร้าย กับภาพขาวดำอันหม่นมืดเล่นแสงเงาที่ชวนให้รู้สึกถึงความอึมครึม ด้วยเจตนาที่ต้องการให้ผู้ชมได้ซึมซับความวิปโยคของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครอบครัวนี้ผ่านมิติเชิงภาพยนตร์มากกว่าจะร้อยเรียงเรื่องราว

ความชัดเจนในส่วนนี้เองที่อาจทำให้ ‘พญาโศก พิโยคค่ำ’ เป็นหนังที่ตามเรื่องราวได้ยาก และแทบไม่เห็นความเชื่อมโยงต่อบริบททางการเมืองที่ผู้กำกับได้แถลงไว้ แต่เป็นงานศิลปะนามธรรมที่มิได้มุ่งเน้นความเข้าใจ มากกว่าการได้เห็นภาพนิมิตอันวิปริตปั่นป่วนภายในของตัวละครภายใต้สภาวการณ์ทางการเมืองเหล่านี้

‘พญาโศก พิโยคค่ำ’ จึงอาจมิใช่หนังแนวขนบสำหรับผู้ชมกลุ่มใหญ่ ที่ต้องการได้สาระเรื่องราวจากการดูหนังมากกว่าพลังงานในเชิงศิลปะ ซึ่งก็ไม่น่าประหลาดใจที่หนังจะได้รับรางวัลจากสมาพันธ์นักวิจารณ์ฯ ผู้นิยมการสรรหารสชาติแปลก ๆ ใหม่ ๆ ในการชมภาพยนตร์อยู่เสมอ

  • ฟังสัมภาษณ์ผู้กำกับ 'ไทกิ ศักดิ์พิสิษฐ์'  ได้ที่นี่

161310639692

นอกเหนือจาก ‘พญาโศก พิโยคค่ำ’ แล้ว เทศกาลภาพยนตร์ Rotterdam Film Festival 2021 ยังมีหนังไทยอีกหนึ่งเรื่องเข้าร่วมประกวด แต่อยู่ในกลุ่มหนังสั้น นั่นคือเรื่อง ‘สาวไล่ฝน’ หรือ Lemongrass Girl ของผู้กำกับหญิง ป้อม บุญเสริมวิชา จากบทภาพยนตร์ของ อโนชา สุวิชากรพงศ์ งานตลกหน้าตายขำแบบหึ ๆ เล่าเรื่องราวความวุ่นวายในกองถ่ายภาพยนตร์อิสระไทย ขณะกำลังถ่ายฉากสำคัญนอกสถานที่แต่พระพิรุณกำลังจะมาเยือน

เดือดร้อนไปถึง ‘เปียโน’ หญิงสาวในกองที่ต้องเป็นธุระจัดการหาตะไคร้มาให้สาวพรหมจรรย์ในกองปักเพื่อไล่ฝน แต่จนแล้วจนรอดเธอก็หาสาวบริสุทธิ์มาช่วยประกอบพิธีกรรมไม่ได้ และต้องมาตั้งคำถามอยู่ในใจว่า เอ? แล้วเธอเองหละจะยังบริสุทธิ์อยู่ไหมนะ!

161310641622

161310642793

161310643662

หนังมีการแตะประเด็นค่านิยมการรักษาพรหมจรรย์ของสาวไทยร่วมสมัยแบบหยิกแกมหยอกบอกกันด้วยสีหน้าท่าทางและการหัวเราะคิกคักแบบเบา ๆ และยกเอาการยืดถืองมงายในความเชื่อทางไสยศาสตร์มาเล่นล้อกับความคิดอ่านของคนทำงานรุ่นใหม่ ว่าสุดท้ายแล้วเมื่อไม่อาจแก้ปัญหาด้วยตัวเองได้ ก็คงต้องหันไปพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยลูกช้างให้รอดพ้นจากวิบากกรรมเหล่านี้ด้วยเถิด!

161310648852

ผู้กำกับ 'ป้อม บุญเสริมวิชา'

161310657939

สำหรับหนังเรื่องอื่น ๆ ที่ได้ร่วมฉายในเทศกาลครั้งนี้ ก็ยังมีหนังนานาชาติในสาย Limelight ที่คัดสรรเอางานอิสระเด่น ๆ จากประเทศต่าง ๆ มาฉายโชว์โดยไม่ได้เข้าร่วมการประกวด โดยหนังที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเทศกาลจนชนะคะแนนโหวตได้รับรางวัล Audience Award ประจำปีนี้ไปได้แก่เรื่อง Quo Vadis, Aida? ของผู้กำกับหญิง Jasmila Zbanic จากบอสเนียและเฮอร์เซโกวินา

161310662518

161310664190

เล่าเรื่องราวปวดหัวใจในช่วงการสังหารหมู่ที่ Srebrenica ผ่านล่ามสาวใหญ่ที่ต้องแปลภาษาท้องถิ่นให้เป็นภาษาดัชท์สำหรับเจ้าหน้าที่ UN จากเนเธอร์แลนด์ จนเมื่อสมาชิกฝ่ายชายในครอบครัวของเธอตกอยู่ในอันตราย เธอจะยังยึดถือจรรยาชีพในการแปลความอย่างตรงไปตรงมาอีกหรือไม่ และจะใช้วิธีการใดในการทำให้สมาชิกในครอบครัวของเธอรอดพ้นจากสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานเหล่านี้

ส่วนหนังขาวดำจากรัสเซียเรื่อง Dear Comrades! ของผู้กำกับ Andrei Konchalovsky ก็สะเทือนใจไม่น้อยไปกว่ากัน กับเหตุการณ์แรงงานประท้วงในสหภาพโซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1962 ช่วงที่พรรคคอมมิวนิสต์กำลังปกครอง เมื่อมารดาและบุตรสาวต้องมาอยู่ในฝ่ายตรงข้ามกัน โดยฝ่ายมารดาเป็นสมาชิกสตรีแห่งพรรคคอมมิวนิสต์ แต่ฝ่ายบุตรสาวกลับไปเข้าข้างการเรียกร้องจากเหล่าคนงาน จนเมื่อเกิดเหตุการณ์ปะทะรุนแรงและบุตรสาวของเธอหายตัวไป ผู้เป็นมารดาจึงมิอาจนิ่งเฉยได้ ละทิ้งอุดมการณ์ทุกอย่างไปเพื่อตามหาบุตรีของเธอคืนมาให้ได้

161310668659

161310670873

นอกจากสองเรื่องนี้แล้วหนังเด่นเรื่องอื่น ๆ ในเทศกาลก็มักจะเล่าถึงชะตากรรมของเหล่าตัวละครสตรีเช่นกัน อย่างเรื่อง Beginning ของผู้กำกับหญิง Dea Kulumbegashvili จากจอร์เจีย เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับภรรยาสาวของผู้นำศาสนา ณ เมืองชนบทแห่งจอร์เจีย หลังถูกผู้ก่อการร้ายโยนระเบิดเพลิงอย่างอุกอาจ ในขณะที่ฝ่ายสามีกำลังวิ่งเต้นเพื่อหาเงินมาสร้างโบสถ์ใหม่ ฝ่ายภรรยาต้องเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนแต่โดยลำพัง อันนำไปสู่การกระทำชำเราบังคับจิตใจที่ไม่อาจเยียวยาได้

161310675596

ในภาวะอันไม่สงบนี้ หนังเล่าเรื่องราวชวนหดหู่ผ่านงานด้านภาพที่กำกับได้อย่างงดงามสะดุดตา มีทัศนียภาพในมุมมองของผู้หญิงที่สวยโดดเด่นกว่างานภาพของผู้กำกับชายโดยทั่วไป แม้ว่าเนื้อหาของมันจะหนักหน่วงและหม่นมืดมากขนาดไหนก็ตาม

ในขณะที่เรื่องสุดท้าย Sweat ของผู้กำกับ Magnus von Horn จากโปแลนด์ ก็เล่าเรื่องราวแสนจะร่วมสมัย เกี่ยวกับชีวิตของเน็ตไอดอลสายออกกำลังกายสาวสวยหุ่นดี ที่ชีวิตเธอได้เปลี่ยนไป เมื่อต้องตกอยู่ภายใต้ความสนใจจากยอด Like ของมหาชน จนทำให้เธอต้องหันมาทบทวนคุณค่าความหมายในตัวเอง เพราะทุก ๆ ภาพที่ปรากฏออกไปสู่สายตาสาธารณะว่าเธอกำลังแฮปปี้มีความสุขขนาดไหน มันกลับไม่ได้ส่องสะท้อนความเป็นจริงภายในของเธอเอาเลย

161310678858

161310683065

หนังชวนให้ผู้ชมได้พิเคราะห์ถึงการใช้ชีวิตในโลกความเป็นจริงและโลกเสมือนออนไลน์ว่ามันมีธรรมชาติที่แตกต่างกันขนาดไหน จนบางครั้งเราเองก็อาจสงสัยว่าความสุขที่แท้มันมาจากสิ่งใด จากยอด follower ยอด like ถล่มทลาย ซึ่งจะเลือนหายภายในเวลาไม่นาน หรือการได้ใช้ชีวิตสู่อนาคตที่จีรังและมั่นคง?