'เพื่อไทย' จี้รัฐเร่งหาตัวผู้ยิงแก๊สน้ำตา เหตุชุมนุม 10 ก.พ.

'เพื่อไทย' จี้รัฐเร่งหาตัวผู้ยิงแก๊สน้ำตา เหตุชุมนุม 10 ก.พ.

"เพื่อไทย" จี้รัฐเร่งหาตัวผู้ยิงแก๊สน้ำตา เหตุชุมนุม 10 ก.พ.ทำมวลชนบาดเจ็บ แนะดูสหรัฐฯ จัดการเมียนมาเป็นตัวอย่าง

..อรุณี กาสยานนท์  โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 ..ที่ผ่นมา มีการแก๊สน้ำตาจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บว่า  การชุมนุมครั้งนี้ปราศจากอาวุธ ขณะที่เจ้าหน้าที่วางกำลังจุดตรวจคัดกรองเข้าออกทุกเส้นทาง  จึงเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ชุมนุมจะนำอาวุธหรืออุปกรณ์ที่เป็นอันตรายเข้าไปในพื้นที่ชุมนุมได้ รัฐบาลไม่ควรปัดความรับผิดชอบกับความรุนแรงที่เกิดขึ้น ต้องสอบสวนให้เกิดความกระจ่างว่าใครเป็นผู้กระทำ แต่ในการปฏิบัติกับผู้ชุมนุมที่ผ่านมา  ยังขัดกับหลักสากลและหลักสิทธิมนุษยชน สวนทางกับประชาคมโลกที่ต่อต้านการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ

"ถึงแม้วันที่ 8 .. ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐฯโทรศัพท์พูดคุยกับเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) แสดงความกังวลถึงการชุมนุมประท้วงในไทยที่จับกุมและดำเนินคดีกับประชาชน แต่วันที่ 9 .. รัฐบาลจับกุมนายอานนท์ นำภา และนายพริษฐ์ชิวารักษ์ ผู้ชุมนุมโดยไม่ฟังเสียงห่วงใยจากสหรัฐ รัฐบาลไม่เคยตระหนักว่าการกระทำใดๆที่ไม่ชอบธรรมจะทำให้ขาดการยอมรับจากนานาประเทศ"..อรุณี กล่าว

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยากให้นายกรัฐมนตรีมองสถานการณ์การเมืองและรัฐประหารยึดอำนาจในเมียนมาเป็นตัวอย่าง  เพราะสัปดาห์หน้านายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะใช้มาตรการต่างๆเพื่อป้องกันไม่ให้เหล่าคณะรัฐประหารสามารถเข้าถึงเงินทุนของรัฐบาลเมียนมาที่ถือครองในสหรัฐฯกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 30,000 ล้านบาทได้ และจะควบคุมการส่งออกอย่างเข้มงวด โดยจะอายัดทรัพย์สินที่เป็นของสหรัฐฯและเป็นประโยชน์แก่รัฐบาลเมียนมา

"หากไทยยังคงใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมทางการเมืองโดยใช้กฏหมายเป็นเครื่องมือบ่อยครั้ง จนทำให้ไทยสูญเสียความเชื่อมั่นกับชาวโลก อาจทำให้สหรัฐเพ่งเล็งมาที่ไทย และจะกระทบกับการค้าการลงทุนระหว่างกันได้ในอนาคต เพราะไทยส่งออกไปสหรัฐมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก มูลค่าการส่งออกในปีที่ผ่านมาอยู่ที่กว่า 1 ล้านล้านบาท"โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว