"ป.ป.ช." จ่อสอบ10ส.ส. เคสเดียวกับ "ปารีณา"

"ป.ป.ช." จ่อสอบ10ส.ส. เคสเดียวกับ "ปารีณา"

ป.ป.ช. เตรียมสรุปคดีสอบบัญชีทรัพย์สิน “ปารีณา” พบ 3 กรณีน่าสงสัย เร่งสอบจริยธรรมเพิ่ม 10 ส.ส.ถือที่ดิน แบบเดียวปารีณา

        นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  (ป.ป.ช.) เปิดเผยภายหลังจากที่ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางจริยธรรมร้ายแรง ต่อ น.ส. ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กรณีครอบครองที่ดินของรัฐโดยมิชอบ ว่า กรณีนี้ยังมีเรื่องที่อยู่ในอำนาจ ป.ป.ช. เกี่ยวเนื่องกัน ที่ ป.ป.ช. ได้แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว ก่อนหน้านี้ คือ การตรวจสอบบัญชีทรัพย์และหนี้สิน ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ว่าเป็นการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ ต่อ ป.ป.ช. หรือไม่ ซึ่งขณะนี้ ป.ป.ช. กำลังตรวจสอบ ใกล้เสร็จสิ้นแล้วเตรียมส่งให้คณะกรรมการวินิจฉัย คาดว่าเร็วๆนี้

           สำหรับกรณี ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน น.ส.ปารีณา มี 3 กรณี คือ

          1.น.ส.ปารีณามีสถานะเจ้าหนี้เงินกู้ 7.7 ล้านบาท แต่ลูกหนี้ปฏิเสธว่าไม่ได้กู้เงินจาก น.ส.ปารีณา อย่างไรก็ดี น.ส.ปารีณา อ้างว่ามีหลักฐานเป็นหนังสือกู้ยืมเงินชัดเจน

        2.ราคาพระสมเด็จบางขุนพรหม 2.5 ล้านบาท ที่ได้จากอดีตสามี คือ นายอุปกิต ปาจรียางกูร  โดย น.ส.ปารีณา แจ้งราคาดังกล่าวต่อ ป.ป.ช. ตามที่อดีตสามีบอก

         3.การแจ้งครอบครองที่ดิน ภ.บ.ท.5 รวม 58 แปลง โดย น.ส.ปารีณายืนยันว่า รายการที่ดิน ภ.บ.ท.5 ที่ครอบครองอยู่จริงมี 29 แปลง ไม่ใช่ 58 แปลง แต่ที่แจ้งไปด้วยตัวเลขดังกล่าว เนื่องจากฝ่ายบัญชีคลาดเคลื่อนในการยื่นบัญชีทรัพย์สิน

           

        ด้าน นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. เปิดเผยเพิ่มเติมด้วยว่า ตลอดกระบวนการไต่สวน เปิดโอกาสให้น.ส.ปารีณา เข้าชี้แจง ซึ่งน.ส.ปารีณาระบุว่าจะขอใช้สิทธิต่อสู้ในชั้นศาล ส่วนกรณีการพิจารณาของศาลจะเป็นอย่างไรให้ถือเป็นดุลยพินิจของศาล  โดยยืนยันว่าเมื่อเรื่องส่งไปศาลแล้วตามรัฐธรรมนูญมาตรา 255 กำหนด หากศาลรับฟ้องต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ เว้นแต่จะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น แต่ข้อกฎหมายต้องหยุดทันที และหากศาลตัดสินตามที่ ป.ป.ช. ยื่นไป ก็ให้มีผลตั้งแต่ประทับรับฟ้อง และห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต รวมถึงเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี

          "กรณีชี้มูลความผิดทางจริยธรรมร้ายแรง ต่อ น.ส. ปารีณา นั้น ยังมีกรณีลักษณะเดียวกัน ที่ ส.ส. อีก ราว 10 คน ถูกร้อง ต่อ ป.ป.ช. จากผู้ร้องครเดียวกัน ให้มีการตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้ ป.ป.ช. อยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริง ก่อนส่งเรื่องให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหญ่ พิจารณาตั้งคณะกรรมการไต่สวนต่อไป แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็น ส.ส. พรรคใดบ้าง" นายนิวัติไชย กล่าว

       ขณะที่ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถีงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ป.ป.ช. ไม่ให้ความเป็นธรรมกับ น.ส.ปารีณา เพราะดำเนินคดีคนเดียว แต่คดีในลักษณะอื่นไม่ดำเนินการ อย่างไรก็ตามมองว่าพนักงานสอบสวนของ ป.ป.ช. ควรมีมาตรฐานเมื่อเทียบกับหน่วยงานอื่นของกระบวนการยุติธรรม

     นายวิรัช ยกตัวอย่าง คดีตนในเรื่องทุจริตสนามฟุตซอล ซึ่งเห็นวิธีการสอบสวน เป็นการกล่าวหา แล้วไต่สวน ทั้งที่ความจริงไม่มีอะไร อย่างไรก็ตาม ตนได้ฟ้องป.ป.ช. และศาลก็รับเรื่องไว้แล้ว วันนี้ไปได้แค่ไหนก็จะเดินไป สุดท้ายก็จะสู้เต็ม 100 เพราะมั่นใจว่าไม่ผิด

           ส่วน  นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยืนยันว่า กรณี ส.ส. ที่ ป.ป.ช. กำลังดำเนินการตรวจสอบเพิ่มอยู่ เป็นกรณีที่ ตนร้องต่อ ป.ป.ช. เมื่อปี 2562 ว่ามี ส.ส. 13 ราย มาจาก 5 พรรคการเมือง ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ประกอบด้วย - พรรคอนาคตใหม่ 2 คน - พรรคพลังประชารัฐ 2 คน - พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน - พรรคภูมิใจไทย 3 คน - พรรคเพื่อไทย 3 คน ที่ถือครองที่ดินที่ส่อว่าจะผิดกฎหมาย หลังแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. โดยเฉพาะ กรณีครอบครองที่ดินประเภท ภ.บ.ท.5 และหรือ ส.ป.ก.4-01.