‘ดีเอสไอ’ จับโมเดลลิ่งแพร่ภาพลามกแหล่งใหญ่ของโลกกว่า 5 แสนไฟล์

“ดีเอสไอ” จับโมเดลลิ่งดังแพร่ภาพลามกยึดคลังภาพ-คลิปโป้แหล่งใหญ่ของโลก กว่า 5 แสนไฟล์ คาดเด็กถูกละเมิดทางเพศหลายพันคน

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ รองอธิบดีดีเอไอ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และองค์กรเอกชน เข้าจับกุมตัว นายดนุเดช หรือ นุ หรือ เนเน่ ผู้ต้องหาตามหมายจับสัญชาติไทย ได้ที่บ้านพัก ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งใช้เป็นสำนักงานโมเดลลิ่ง ถือว่าเป็นโมเดลลิ่งเด็กที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย

นายดนุเดช ถูกตั้งข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้, กระทำชำเรา และพยายามกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และพาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร

พ.ต.ท.กรวัชร์ เปิดเผยว่า ตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย ร้องเรียนมาที่โดยกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ดีเอสไอ เกี่ยวกับบุคคลสัญชาติไทย ที่อาจมีพฤติการณ์ล่วงละเมิดทางเพศเด็กในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยได้รับข้อมูลเป็นภาพถ่ายโป๊เปลือยเด็กเพียงภาพเดียว จนนำมาสู่การปฏิบัติการแบบบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้

ดีเอสไอ ตรวจวิเคราะห์ เชื่อมโยงข้อมูลจากองค์กร Operation Underground Railroad (O.U.R.) เมื่อทราบเบาะแสว่ามีผู้ร่วมกระทำความผิดชื่อ นายฐกร อรรถปฐมชัย หรือ นายหมี หรือ นายบาส ดีเอสไอ จึงสนธิกำลังร่วมกับ สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย และประสานข้อมูลร่วมกับ Federal Bureau of Investigation (FBI), Homeland Security Investigations (HSI) และ New Zealand Police ในการจับกุมตัว นายฐกร เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2563 และในวันเดียวกัน ได้ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอเป็นคดีพิเศษที่ 77/2563 และนำมาสู่การจับกุม นายดนุเดช แสงแก้ว หรือ นุ หรือ เนเน่

จากการเข้าจับกุมนายดนุเดช ที่บ้านพักพบคลังภาพลามกอนาจารเด็กมากกว่า 500,000 ไฟล์ภาพ นับว่าเป็นการได้มาซึ่งภาพลามกอนาจารเด็กมากที่สุด และเกี่ยวพันกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กจำนวนหลายพันราย

นอกจากการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาแล้ว ดีเอสไอ ยังได้มีการประสานกับ องค์กร Operation Underground Railroad (O.U.R.), มูลนิธิเอ-ทเวนตี้วัน (A21 Foundation), องค์กร LIFT International, มูลนิธิพิทักษ์สตรี (AAT), TCLS Legal Advocate และศูนย์กฎหมายเพื่อสังคม เพื่อการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงช่วยในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหาย

สำหรับ การจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ ได้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศ ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการข่าว ตลอดจนความร่วมมือในการสืบสวนและการบังคับใช้กฎหมาย ที่มีความเชื่อมโยงในการกระทำความผิดในหลายทวีปทั่วโลก ซึ่งดีเอสไอ จะมีการจัดแถลงรายละเอียดถึงความร่วมมือและแนวทางในการดำเนินการร่วมกันต่อไปอีกครั้ง อันจะนำไปสู่การให้ความช่วยเหลือเด็กที่ตกเป็นเหยื่อของการแสวงหาประโยชน์ทางเพศ ซึ่งเป็นความผิดทั้งทางกฎหมายและศีลธรรม และเป็นกรณีที่หน่วยงานระหว่างประเทศให้ความสำคัญ