เทรดวันสุดท้ายก่อนหยุดยาว

เทรดวันสุดท้ายก่อนหยุดยาว

ตลาดหุ้นวานนี้ปรับตัวลงเล็กน้อยและผันผวนในแดนบวกสลับลบตลอดช่วงการซื้อขาย คล้ายกับตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่

คาดนักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการลงทุนก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน และจับตาการนัดชุมนุมประท้วงทางการเมืองภายในประเทศในช่วงเย็น ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,516.94 จุด -1.33 จุด -0.09% มูลค่าการซื้อขาย 74,892 ลบ. ต่างชาติ +1,182.24 ลบ. TFEX -9,019 สัญญา ตราสารหนี้ +806 ลบ.


ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 61.97 จุด +0.20% หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ย้้าว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปเพื่อกระตุ้นศก.และการจ้างงาน แต่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ จากการเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
+ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ +0.6% ปิดที่ $58.68 ต่อบาร์เรล ขานรับ EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 6.6 ล้านบาร์เรลมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 2.7 ล้านบาร์เรล
+สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนม.ค. หลังจากดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนธ.ค.
+สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.3%MoMในเดือนธ.ค. หลังจากทรงตัวในเดือนพ.ย.
+ นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ย้้าว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงาน

ปัจจัยลบ

- ปธน.โจไบเดนจะแถลงข่าวในวันนี้เกี่ยวกับท่าทีของสหรัฐต่อการก่อรัฐประหารในเมียนมา
- แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ระบุว่ากลุ่มราษฎรจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาฯ คู่ขนานไปกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา โดยจะชุมนุมอย่างต่อเนื่อง และตั้งเป้าหมายจัดการชุมนุมใหญ่ทั่วประเทศที่มีผู้เข้าร่วม 2 ล้านคน
+/- เงินบาทเปิดตลาดแข็งค่า ที่29.90 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องจากในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่ คงรอดูการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลในสัปดาห์หน้า

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้ากระทบตลาด ประกอบกับนักลงทุนชะลอการลงทุนก่อนช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลตรุษจีน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,505-1,530 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นที่ได้ผลดีจากนโยบายไบเดน : BGRIM GPSC EA RATCH BCPG
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการเราชนะ : TNP KK CPALL BJC MAKRO
• คาดผลประกอบการกลุ่มโรงกลั่นและกลุ่มโรงไฟฟ้าจะปรับตัวดีขึ้น : PTTGC SPRC TOP BGRIM BCP IRPC

หุ้นรายงานพิเศษ

        OR     IPO 18 บาท PE 27x Consensus 20-25 บาท

•ดำเนินธุรกิจ 3 ธุรกิจ 1.ธุรกิจจำหน่ายน้ำมันมีสาขา 2,297 แห่ง กระจายในไทย กัมพูชา ลาว ฟิลลิปปินส์ พม่า เป็นแบบ DODO 1,859 แห่ง และ COCO 438 แห่ง 2. ธุรกิจ Non-oil เป็นเจ้าของร้าน Amazon ซึ่งมี 3,440 สาขา และ Texas Chicken และ ฮั่วเซ่งฮงรวม 319 สาขา นอกจากนี้ยังมีร้านสะดวกซื้อที่เปิดให้บริการในสถานีจำหน่ายน้ำมัน 2,046 สาขา และ 3. ธุรกิจต่างประเทศซึ่งเป็นการขยายสถานีจำหน่ายน้ำมันไปยังประเทศลาว พม่า กัมพูชา ฟิลลิปปินส์

•ผลการดำเนินงานรายได้ 9M63 อยู่ที่ราว 3.25 แสนลบ. -23%YoY จากผลกระทบของราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง ขณะที่กำไรสุทธิ 9M63 อยู่ที่ 5.87 พันลบ. -34%YoY

•ทำการขายหุ้น IPO 3,000 ล้านหุ้น เป็นการกระจายปกติ 2,310 ล้านหุ้น / ให้สิทธิผู้ถือหุ้น PTT จอง 300 ล้านหุ้น / Greenshoe 300 ล้านหุ้น และด้วย Market Cap ขนาดใหญ่ 230,000 ล้านบาท จะเข้าเกณฑ์ fast track to Set50 หลังเข้าตลาดใน 3 วันทำการ (หุ้น SET50 ที่มี MKT Cap ต่ำสุด TTW COM7)

หุ้นมีข่าว

(+) GPSC (Bloomberg Consensus 82 บาท) ทุ่ม 500 ล้านบาท ลงทุนในบริษัท Anhui Axxiva New Energy Technology Co., Ltd. ประเทศจีน สัดส่วน 11.1% สร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ กำลังการผลิตรวม 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี รับเทรนด์อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) KEX (Bloomberg Consensus 59.25 บาท) KEX แจ้ง “เอสเอฟ โฮลดิ้งส์ โค” ยักษ์ใหญ่ขนส่งพัสดุในจีน สนใจเข้าซื้อหุ้น “เคอร์รี่ โลจิสติกส์ เน็ตเวิร์ก (KLN)” ในฮ่องกง 51.8 % คาดเพิ่มโอกาสเคอรี่ขยายเครือข่ายไปยังจีน รวมทั้งส่งผลบวกต่ออนาคตของ KEX และ VGI ด้วย (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) PTTEP (Bloomberg Consensus 120.00 บาท) ประสบความสำเร็จในการขุดเจาะหลุมประเมินผล "ลังเลอบาห์-2" ในโครงการซาราวัก เอสเค 410บี นอกชายฝั่งประเทศมาเลเซีย โดยค้นพบก๊าซธรรมชาติแหล่งใหญ่ที่สุด และมีปริมาณมากที่สุดเท่าที่ปตท.สผ. เคยสำรวจพบ ล่าสุดมีอัตราการไหลของก๊าซประมาณ 50 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (ที่มา ทันหุ้น)

ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อการค้นพบแหล่งก๊าซฯ ของ PTTEP เนื่องจากช่วยหนุนให้ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นในอนาคตเป็นปัจจัยหนุนต่อการปรับเพิ่มประมาณการของบริษัทหลังแหล่งก๊าซฯ ดังกล่าวเริ่มดำเนินการผลิต

(+) IP (Bloomberg Consensus 18.00 บาท) "ดร.ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์" บอสใหญ่ IP เผยได้ยื่นขอใบอนุญาต อย.ผลิตกัญชงแล้ว เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ในรูปแบบยา อาหารเสริม และเวชสำอาง คาดชัดเจนปีนี้ พร้อมปักเป้ายอดขายปี 64 แตะ 750-800 ล้านบาท ล่าสุดทุ่มงบ 160 ล้านบาท ซื้อโรงงานยา ลุยรับจ้างผลิตยาให้บริษัทเวชภัณฑ์ระดับโลก ถือสัญญา 3-5 ปี คาดรับทรัพย์หลายร้อยล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตา

ในประเทศ 

15 ก.พ. สภาพัฒน์ แถลงตัวเลข GDP 4Q63

16-19 ก.พ. อภิปรายไม่ไว้วางใจ ลงมติ 20 ก.พ.
                สัปดาห์ที่ 3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-น้าเข้า

                สัปดาห์ที่ 4 สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

1 มี.ค. วันสุดท้ายบจ.ส่งงบปี 63 กรณีไม่ส่ง Q4 (ส่งได้ภายใน 2 มี.ค.ก่อนเปิดตลาดเช้า)

ต่างประเทศ

11 ก.พ. สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

12 ก.พ. อังกฤษเปิดเผยดุลการค้าเดือนธ.ค. GDP ไตรมาส 4/2563 และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. สหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.พ.

15 ก.พ. ญี่ปุ่นเปิดเผย GDP 4Q63

           อียูเปิดเผยดุลการค้าและการผลิตอุตสาหกรรม16 ก.พ. อียูเปิดเผย GDP 4Q63 และดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนก.พ.

           สหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิต เดือนก.พ.