ขับเคลื่อน 'กัญชง-กัญชา' จากแปลงวิจัยสู่ครัวเรือน 6 ต้น หลังสธ.ออกกฎกระทรวง

ขับเคลื่อน 'กัญชง-กัญชา' จากแปลงวิจัยสู่ครัวเรือน 6 ต้น หลังสธ.ออกกฎกระทรวง

รมช.มนัญญา ขับเคลื่อน "กัญชง-กัญชา" จากแปลงวิจัยสู่ครัวเรือน 6 ต้น หลังสธ.ออกกฎกระทรวง

เมื่อวันที่ 10 ก.พ.64 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์  รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้ให้นโยบายกับกรมวิชาการเกษตร(กวก.) ไปหารือกับคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กระทรวงสาธารณสุข เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางในการขับเคลื่อนการส่งเสริมการปลูกพืช "กัญชง และกัญชา" ภายหลังที่กฎกระทรวงสาธารณสุขมีผลบังคับใช้ ซึ่งคาดว่าภายในเดือนก.พ. 2564 จะได้แนวปฏิบัติออกมาเพื่อให้ประชาชนที่สนใจจะปลูกรับทราบภายใต้การกำกับของอย. และมีกรมวิชาการเกษตรเป็นพี่เลี้ยงทางด้านวิชาการ

“แนวปฏิบัติดังกล่าวจะครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการนำเข้า และจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ การขออนุญาตปลูก การตรวจแปลง การตรวจสารยาในเมล็ด ไปจนถึงการจับคู่รับซื้อผลผลิตทั้งหมด จนถึงกระบวนการแปรรูปเนื่องจากเป็นพืชควบคุม ทั้งนี้จะส่งผลให้ประชาชนทั่วไปที่ประสงค์จะปลูกสามารถที่จะยื่นเรื่องเพื่อขออนุญาตได้ที่คณะกรรมการระดับจังหวัด เพราะรัฐบาลต้องการให้นโยบายที่ออกมาสร้างอานิสงค์ทั้งการสร้างงาน และการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ภายใต้กำกับของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง” รมช.เกษตรฯกล่าว

161294814158

แนวปฏิบัติประกอบด้วย

1.การนำเข้าเมล็ดพันธุ์และจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ กรมวิชาการเกษตรจะเร่งดำเนินการประกาศให้เมล็ดพันธุ์กัญชาและกัญชงเป็นเมล็ดพันธุ์ควบคุมตามพรบ.พันธุ์พืช พ.ศ. 2518 โดยในระหว่างรอประกาศ จะใช้ระเบียบและกฎเกณฑ์ของอย.ไปพรางก่อน เมื่อมีประกาศแล้ว ให้สองหน่วยงานบูรณาการในการรับรองใบอนุญาต

2. การขออนุญาตปลูกเป็นของอย. ซึ่งจะมีคณะกรรมการระดับจังหวัด พิจารณาและรวบรวมรายชื่อผู้ปลูกและหลักฐานการยื่นให้เกษตรและสหกรณ์จังหวัดและหน่วยงานในกระทรวงเกษตรดูแล ตั้งแต่การเตรียมแปลง ตามเก็บเกี่ยว และส่งผลการตรวจประเมินความสามารถของผู้ปลูกให้อย. และกระทรวงเกษตรฯจะร่วมตรวจสอบการนำเข้าการผลิตเมล็ดพันธุ์เพื่อจำหน่าย การควบคุมการผลิตต้นกล้า และคุณภาพต้นกล้าเพื่อให้ได้คุณภาพตรงตามสายพันธุ์ 

3.การทดสอบคุณภาพของกัญชาและกัญชง ผู้ปลูกและผู้ซื้อสามารถใช้อุปกรณ์ตรวจเบื้องต้นได้เอง และกระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนให้เอกชนตั้งห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์คุณสมบัติทางกายภาพและคุณสมบัติทางเคมีของสารสกัดจากกัญชาและกัญชง เพื่อให้การบริการประชาชนทั่วถึง

4.การซื้อ-ขายกัญชาและกัญชง จะเป็นการซื้อ-ขายโดยตรง หรือระบบ contract farming ระหว่างผู้ซื้อและผู้ปลูก  รวมถึงการจัดตั้งตลาดกลางกัญชา ตลาดกลางกัญชง เป็นศูนย์กลางการซื้อ-ขายที่มีกำหนดมาตรฐานสินค้า การกำหนดราคากลาง และการซื้อขายที่เป็นธรรมโดยให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักในการจัดตั้ง

161294814893

นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ภายหลังแนวปฏิบัติได้รับการเห็นชอบแล้วทั้งสองหน่วยงานจะมีการขับเคลื่อนภารกิจตามนโยบายของรมช.เกษตรฯ ให้สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ของกฎหมายที่แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบตลอดห่วงโซการผลิต ในขณะที่กรมวิชาการเกษตรเองปัจจุบันได้เร่งงานวิจัยพันธุ์พื้นเมือง พันธุ์ที่เหมาะสมกับภูมิประเทศและภูมิอากาศของไทย โดยจะมีการลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ในระยะต่อไป ขณะที่งานการรับรองพันธุ์ ตามพรบ.พันธุ์พืช  พ.ศ. 2518 ปัจจุบันกรมได้มีการขึ้นทะเบียนแล้ว 1 พันธุ์คือ กัญชาพันธุ์อิสระ 01 เมื่อต้นเดือนก.พ.2564 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นกรมวิชาการเกษตรได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขโครงการปลูกกัญชา 6 ต้น โนนมาลัยโมเดล ที่บ้านโคกนาค ต.หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ โดยให้คำปรึกษาด้านการขยายพันธุ์ด้วยวิธีปักชำกิ่ง การปลูก การดูแลรักษาเพื่อให้เป็นต้นแบบการปลูกกัญชาในระดับครัวเรือนและพร้อมสนับสนุนหากสธ.จะขยายการดำเนินการไปทั่วประเทศ

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวต่อว่า ปัจจุบันกรมได้มีแผนการวิจัย และพัฒนาพืชกัญชาและกัญชง โดยการรวบรวม และศึกษาขยายพันธุ์พื้นเมือง และพันธุ์การค้าต่างประเทศ เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ โดยดำเนินการที่กรุงเทพฯเพื่อให้ได้เมล็ดพันธุ์ดี และที่ศูนย์เชียงรายเป็นการทดลองปลูกในสภาพโรงเรือน การทดสอบสายพันธุ์คุณภาพเพื่อใช้ทางการแพทย์ การศึกษาการจำแนกกัญชาเพื่อรองรับการคุ้มครองพันธุ์พืช การวิจัยยีนและการแสดงออกของยีน

นอกจากนั้น ได้มีการคัดเลือกสายพันธุ์ และทดสอบเทคโนโลยีการผลิตพืชสกุลกัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์และอุตสาหกรรม ที่วิสาหกิจชุมชนเพ-ลา เพลินและวิสาหกิจชุมชนปลูกพืชสมุนไพรไทยโนนมาลัย จ.บุรีรัมย์